หน้าแรก / ข่าวลิเวอร์พูล / พรีวิว พรีเมียร์ ลีก อาร์เซนอล -vs- ลิเวอร์พูล

พรีวิว พรีเมียร์ ลีก อาร์เซนอล -vs- ลิเวอร์พูล

earthmomo 2015-04-04 16:14:20 พรีเมียร์ลีก
พรีวิว พรีเมียร์ ลีก อาร์เซนอล -vs- ลิเวอร์พูล

พรีวิว พรีเมียร์ ลีก อาร์เซนอล -vs- ลิเวอร์พูล

วันเสาร์ที่ 4 เมษายน 2015 เวลา 18.45 น.

สนาม เอมิเรตส์ สเตเดี้ยม

ถ่ายทอดสดช่อง CTH Stadium 3

 

     ศึกพรีเมียร์ลีก นัดที่ 31 ลิเวอร์พูล ทีมอันดับ 5 จะต้องออกไปเยือน อาร์เซนอล ทีมอันดับ 3 โดยพวกเขามีแต้มตามหลังถึง 6 คะแนน นั่นหมายความว่าลูกทีม เบรนแดน ร็อดเจอร์ส จะต้องคว้า 3 คะแนนเต็มเท่านั้นในเกมนี้หากหวังจะมีลุ้นคว้าอันดับไปเล่นฟุตบอลยุโรปต่อไปในซีซั่นหน้า

สภาพทีมล่าสุด : อาร์เซนอล

     ทางฝั่งเจ้าบ้าน อาร์เซนอล ถือว่าฟูลทีมเลยทีเดียวในตอนนี้และมีผู้เล่นที่มีปัญหาบาดเจ็บรายเดียวเท่านั้นก็คือ อเล็กซ์ อ็อกซ์เลด-แชมเบอร์เลน ส่วน แดนนี่ เวลเบ็ค น่าจะผ่านความฟิตและลงในเกมนี้ได้อย่างไม่มีปัญหา เกมนี้คาดว่าทาง เวนเกอร์ จะปรับผู้เล่นหลายรายโดยเฉพาะผู้รักษาประตูที่จะส่ง ดาบิด ออสปิน่า ลงมา โดยมี เอคตอร์ เบเญริน แพร์ เมร์เตซัคเกอร์ โลร็องต์ กอสเซียลนี่ และ นาโช เป็น 4 ประสานในแนวรับ และวาง โอลิวิเย่ร์ ชิรูด์ เป็นหน้าเป้าเช่นเคย


สภาพทีมล่าสุด : ลิเวอร์พูล

     ส่วนความพร้อมทางฝั่งทีมเยือน ร็อดเจอร์ส จะหมดสิทธิ์ใช้งาน มาร์ติน สเคอร์เทล และ สตีเว่น เจอร์ราร์ด ที่ติดโทษแบนจากนัดที่แล้ว ส่วนผู้เล่นที่รอเช็คฟิตอย่าง เดยัน ลอฟเรน, อดัม ลัลลานา และ แดเนี่ยล สเตอร์ริดจ์ น่าจะทันลงสนามได้ คาดว่า ร็อดเจอร์ส เตรียมส่ง ลอฟเรน ลงอุดรอยรั่วของ สเคอร์เทล ส่วนตำแหน่งหน้าเป้า แดเนี่ยล สเตอร์ริดจ์ น่าจะฟิตพร้อมเต็มที่หลังถอนตัวจากเกมทีมชาติ

คีย์แมน

อาร์เซนอล : อเล็กซิส ซานเชซ

     อเล็กซิส ซานเชซ ถือเป็นตัวความหวังในทีมชุดหลักของเจ้าถิ่นเลยก็ว่าได้ ด้วยพิษสงและความสามารถรอบด้านของเขาน่าจะสร้างปัญหาให้แนวรับ ลิเวอร์พูล โดยเฉพาะการขาดหายไปของ สเคอร์เทล ที่โดนโทษแบนจากนัดที่ผ่านมา และก่อนเกมทาง เวนเกอร์ ได้ออกมาทำสงครามจิตวิทยาว่าทำไม ซานเชซ ถึงเลือกมาค้าแข้งกับ อาร์เซนอล แทนที่จะเป็น ลิเวอร์พูล อีกด้วย

ลิเวอร์พูล : ราฮีม สเตอร์ลิ่ง

     สเตอร์ลิง ถือเป็นผู้เล่นคนสำคัญ ณ ตอนนี้อย่างปฎิเสธไม่ได้ แม้เจ้าตัวจะมีปัญหาเรื่องเจรจาสัญญากับสโมสรอยู่ก็ตาม จากสถิติที่ผ่านมาดาวรุ่งวัย 20 ปีผู้นี้ ทำประตูไปทั้งสิ้น 6 ประตูจาก 28 นัดในลีก สร้างสรรค์โอกาสได้ 62 ครั้ง น่าจะเป็นการการันตีความสามารถได้เป็นอย่างดี

Raheem Sterling (Liverpool)

วาทะก่อนเกมของผู้จัดการทั้งสองทีม

อาร์เซน เวนเกอร์ (อาร์เซนอล) :

     "ท้ายที่สุดมีแค่ อเล็กซิส เท่านั้นที่จะบอกคุณได้ว่าทำไมเขาจึงเลือกย้ายมาอยู่กับเรา ผมไม่รู้ว่าทำไมเขาจึงตัดสินใจแบบนั้น แต่เราก็มีความสุขที่เขาเลือกเช่นนี้ ผมพอรู้ว่า ลิเวอร์พูล สนใจเขา คุณไม่มีทางรู้หรอกว่ามันจริงไหม "

 เบรนแดน ร็อดเจอร์ส (ลิเวอร์พูล) :

     " เราจะไปที่นั่นเพื่อคอยที่จะได้ลงเล่น มันจะเป็นแรงกระตุ้นเพื่อกลับมาคว้าอีกครั้ง เรามี 2 สัปดาห์ที่ยาวนาน เราผิดหวังอยู่บ้างเพราะว่าเราเล่นไม่ดี แต่มันเป็นแรงกระตุ้นชั้นดีที่จะคว้าบางอย่างจากเกมนี้ แน่นอนมันเป็นสิ่งที่จะพาเราประสบความสำเร็จ "

ฟอร์มการเล่น

     พร้อมการเล่นของทั้งคู่ทาง อาร์เซนอล ถือว่าดูดีกว่า โดยทางเจ้าถิ่น อาร์เซนอล สามารถเก็บชัยได้ถึง10 เกม เสมอ 3 และ แพ้ 1 เท่านั้นใน 14 เกมหลังสุด ส่วนทีมเยือน "หงส์แดง" ลิเวอร์พูล ชนะ 8 เสมอ 1 แพ้ 5 จาก 14 นัดหลังสุด

ประวัติการพบกัน

     เมื่อพิจารณาจากสถิติการพบกันใน 10 นัดหลัง ลิเวอร์พูล ทำได้ไม่ดีนักเพราะพวกเขาเอาชนะ "ไอ้ปืนใหญ่" ได้เพียงแค่ 2 เกม และพ่ายไปถึง 4 และ เสมอกันไป 4 ครั้งด้วยกัน

รายชื่อนักเตะที่คาดว่าจะลงสนาม

อาร์เซน่อล (4-2-3-1) : ดาบิด ออสปิน่า - เอคตอร์ เบเญริน, แพร์ เมร์เตซัคเกอร์, โลร็องต์ กอสเซียลนี่, นาโช มอนเรอัล - ฟรานซิส กอเกอแล็ง, อารอน แรมซี่ - อเล็กซิส ซานเชซ, เมซุต โอซิล, ซานติ กาซอร์ล่า - โอลิวิเย่ร์ ชิรูด์

ลิเวอร์พูล (3-4-3) : ซิมง มิโญเล่ต์ - เอ็มเร่ ชาน, เดยัน ลอฟเรน, มามาดู ซาโก้ - ลาซาร์ มาร์โควิช, จอร์แดน เฮนเดอร์สัน, โจ อัลเลน, อัลเบร์โต้ โมเรโน่ - ราฮีม สเตอร์ลิง, แดเนี่ยล สเตอร์ริดจ์, ฟิลิปเป้ คูตินโญ่

 

ทรรศนะ Siamliverpool

     แมตช์ที่ 31 ในพรีเมียร์ลีกถือเป็นเกมสำคัญของ "หงส์แดง" ลิเวอร์พูล อย่างแท้จริงโดยมี 3 แต้มและพื้นที่เพื่อไปลุย ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีกเป็นเดิมพัน เกมนี้จำเป็นอย่างยิ่งที่พวกเขาต้องบุกไปชนะ อาร์เซนอล ให้ได้หลังเพิ่งพ่ายนัดแดงเดือดที่ผ่านมา แต่เมื่อมองผลงานการพบกันที่ผ่านมาทางเจ้าถิ่นถือว่าทำได้ดีกว่าพอสมควรโดยเฉพาะ 10 นัดหลังที่พบกัน และยิ่งลูกทีม อาร์เซน เวนเกอร์ กำลังร้อนแรงเช่นนี้ทางทีมเยือนอาจต้องเจอกับความยากลำบากเป็นแน่ คาดว่าทั้งสองทีมจะพยามครองบอลให้ได้ในแดนกลางและอาจไม่มีจังหวะเข้าทำในพื้นที่สุดท้ายมากนัก เกมนี้มีความเป็นไปได้สูงที่จบลงด้วยผลเสมอครับ....

ฟันธง : ลิเวอร์พูล เสมอ 1-1

ADS