รู้จักกับ ไอดี้ วอร์ด เอเยนต์คนสำคัญของ สเตอร์ลิ่ง

     ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ไอดี้ วอร์ด ได้เปลี่ยนแปลงตัวเองจากเอเยนต์นักเตะที่ไม่มีใครรู้จักกลายมาเป็นคนดังบนหน้าข่าวกีฬาของอังกฤษ และสำหรับวงการฟุตบอลแล้วการที่เอเยนต์สักคนจะมีเรื่องราวกลบข่าวแฟชั่นละก็ มันต้องไม่ธรรมดาแน่นอน และจากนี้ไปคือเรื่องที่เดอะค็อปควรต้องรู้เกี่ยวกับความเป็นมาของเอเยนต์รายนี้

     ชื่อของ วอร์ด เริ่มมาปรากฎตัวเองเกี่ยวกับเรื่องการต่อสัญญาของ ราฮีม สเตอร์ลิ่ง ที่ยืดเยื้อจนป่านนี้นับตั้งแต่เดือนมกราคมที่ผ่านมา และยิ่งบทสัมภาษณ์ของ สเตอร์ลิ่ง กับบีบีซีถูกเผยแพร่ออกมา ก็ยิ่งทำให้ชื่อของ วอร์ด กลายเป็นประเด็นในวงกว้างเกี่ยวกับเบื้องหลังในเรื่องนี้

     วอร์ด วัย 34 ปี จัดเป็นบุคคลที่มีบทบาทสำคัญในการต่อรองสัญญา ในความเป็นจริงเขาคือกุญแจสำคัญในการโน้มน้าว สเตอร์ลิ่ง ให้เลือกทำอย่างไรก็ได้ ในฐานะที่ปีกดาวรุ่งกลายมาเป็นคนสำคัญของ ลิเวอร์พูล ในขณะนี้ และนำไปสู่ค่าตัวมหาศาลหากว่ามีการย้ายทีมเกิดขึ้น ในแง่มุมนี้ก็ถือว่า วอร์ด คือผู้รักษาผลประโยชน์ที่เขี้ยวลากดินใช้ได้

     ชื่อเสียงของ วอร์ด ไม่ธรรมดา ทั้งคอนเนกชั่นที่แนบแน่นกับ อิมแพ็ค สปอร์ต เมเนจเม้นท์ และ ร็อบ ซีกัล ซึ่งเป็นบิ๊กเนมในวงการฟุตบอล นอกเหนือจาก สเตอร์ลิ่ง ลูกค้าของ วอร์ด ยังมีทั้ง อเล็กซ์ อ็อกเลด-แชมเบอร์เลน มิดฟิลด์ อาร์เซน่อล และ ไซได้ เบราฮิโน่ ดาวยิงจาก เวสต์บรอมวิช อัลเบี้ยน

     ยังมีลูกค้ากว่า 200 คนที่เป็นขาประจำของเขา อาทิ เช่น คาร์ล โรบินสัน และ ฌอน ไดซ์ 2 ผู้จัดการทีมคนดัง และพิธีกรรายการอย่าง เจสัน โรเบิร์ตส์ และ เจฟฟ์ สเตลลิ่ง

     แต่ วอร์ด ตอนนี้กำลังแยกตัวออกมา และก่อตั้งบริษัทเอเยนต์ส่วนตัวขึ้นเอง ปัจจุบันมี สเตอร์ลิ่ง, เบราฮิโน่ ที่ตามมาเป็นลูกค้า ส่วน แชมเบอร์เลน กำลังอยู่ในระหว่างการพิจารณา

     ในแง่ความสัมพันธ์ของ สเตอร์ลิ่ง และ วอร์ด จัดว่าเหนียวแน่น อย่างปีก่อนก็เคยส่ง ทวิตเตอร์ ไปอวยพรวันเกิดให้ วอร์ด มาแล้ว

     ข่าวคราวของ วอร์ด เริ่มปะทุขึ้นตามสื่อ นับตั้งแต่ เบราฮิโน่ ให้สัมภาษณ์กับ สกาย สปอร์ต เมื่อกุมภาพันธ์ว่าเจ้าตัวรู้สึกโกรธ เวสต์บรอมวิช มากที่ไม่คิดมอบสัญญาฉบับใหม่ และเล็งจะขายเขาทิ้งในหน้าร้อนนี้

     "ผมจำเป็นต้องโฟกัสว่าผมกำลังทำอะไรอยู่ในตอนนี้ ซึ่งนั่นก็คือการยิงประตูและช่วย เวสต์บรอมวิช ให้อยู่ใน พรีเมียร์ ลีก ต่อไป"

     "ถ้าผมช่วยทีมให้อยู่ในลีกต่อไปได้ และยิงประตูได้มากเท่าที่ผมต้องการ ผมแน่ใจว่าแฟนๆ คงไม่รังเกียจหากผมจะย้ายไปยังทีมที่ใหญ่กว่านี้"

     และดูท่าทางประวัติศาสตร์จะมาซ้ำรอยที่ แอนฟิลด์ เสียแล้วสำหรับลูกค้าของ วอร์ด ทั้งสองคน

     เมื่อเดือนกันยายน ปี 2012 หลัง สเตอร์ลิ่ง ได้ลงเป็นตัวจริงนัดแรกให้ ลิเวอร์พูล และยังได้ถูกเรียกติดทีมชาติอังกฤษครั้งแรกในเกมที่พบ ยูเครน ร็อดเจอร์ส ได้พูดว่า "หลังจากที่ผมได้คุยกับ รอย ฮ็อดจ์สัน และ ราฮีม คนต่อไปที่ผมจะโทรไปคุยก็คือ เอเยนต์ของเขา"

     "ผมต้องการให้เขาระวังในข่าวนี้ แต่อย่างไรก็ตามเขาคงไม่จำเป็นต้องโดดขึ้นรถมาคุยกับผมถึง ลิเวอร์พูล หรอกนะ ผมต้องการจัดการในเรื่องความคาดหวังในตัวเด็กคนนี้ เราไม่ต้องการจะเห็นรายการสกายสปอร์ตขึ้นภาพข้อความบนจอทีวีว่า เขาเพิ่งต่อสัญญา 5 ปี หลังลงเล่นให้เราไปแค่ 2 เกมเท่านั้น"

     สิ่งต่างๆ ในอดีตบ่งบอกว่า วอร์ด เป็นจอมบงการมาตลอดเกี่ยวกับการค้าแข้งของลูกค้าของเขาทั้งหมด จริงอยู่ในหน้าที่ของเขาคือการรักษาผลประโยชน์และต่อรองในสิ่งที่ดีที่สุดทั้งเขาและนักเตะในความดูแล แต่ในทางกลับกันนอกเหนือจากเรื่องเงินทอง วอร์ด ก็ควรคิดให้ดีในเรื่องอื่นๆ ที่จะช่วยพัฒนาฝีเท้าของ สเตอร์ลิ่ง ทั้งในแง่พัฒนาการและสิ่งแวดล้อมที่เหมาะสม รวมไปถึงการรักษาภาพลักษณ์ของนักเตะด้วย ไม่งั้น สเตอร์ลิ่ง อาจถูกตราหน้าไปตลอดกาลว่าเป็นแค่ ดาวรุ่งหิวเงินจอมละโมบคนหนึ่งเท่านั้น