หน้าแรก / ข่าวลิเวอร์พูล / วิเคราะห์พร้อมฟันธง 3 ทางเลือกผ่าวิกฤติของ "บีร็อด" หลังสเคอร์เทลโดนแบน

วิเคราะห์พร้อมฟันธง 3 ทางเลือกผ่าวิกฤติของ "บีร็อด" หลังสเคอร์เทลโดนแบน

วิเคราะห์พร้อมฟันธง 3 ทางเลือกผ่าวิกฤติของ บีร็อด หลังสเคอร์เทลโดนแบน

     ความหวังในการจบซีซั่นนี้ด้วยตำแหน่งท็อป 4 ของ ลิเวอร์พูล ดูท่าจะพังทลายลงเสียแล้ว หลังสมาคมฟุตบอลอังกฤษประกาศแบน มาร์ติน สเคอร์เทล กองหลังคนสำคัญอย่างเป็นทางการถึง 3 นัด จากเหตุการณ์ที่เขาไปย่ำใส่ขาของ ดาบิด เด เกอา ผู้รักษาประตู แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในศึกแดงเดือดเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา

     เป็นที่แน่นอนว่าสเคอร์เทลจะต้องพลาดการลงสนามสามแมตช์สำคัญกับอาร์เซนอลและนิวคาสเซิลในลีก รวมไปถึง เอฟเอ คัพ รอบก่อนรองชนะเลิศ นัดรีเพลย์กับแบล็คเบิร์น การสูญเสีย สเคอร์เทล อาจเป็นอันตรายอย่างใหญ่หลวงต่อความหวังในลีกของ เบรนแดน ร็อดเจอร์ส มาดูกันว่าจะมีแนวทางแก้ไขปัญหานี้อย่างไรบ้าง

แทนตำแหน่งโดย โคโล่ ตูเร่

     ถ้าหากว่า ร็อดเจอร์ส มองไปที่ผู้เล่นชุดปัจจุบันแล้วหาตัวเลือกที่เหมือนหรือคล้าย สเคอร์เทล ที่สุด คงไม่มีใครจะเหมาะกับตำแหน่งนี้มากไปกว่า โคโล่ ตูเร่

    ประสบการณ์อันล้นเหลือของ ตูเร่ จะเป็นประโยชน์อย่างมาก สำหรับช่วงเวลาที่เหลือตลอดทั้งซีซั่นนี้ของ ลิเวอร์พูล ตูเร่ เป็นผู้เล่นที่มีสถิติจ่ายบอลแม่นยำที่สุดเป็นอันดับสองของ ลิเวอร์พูล ในซีซั่นนี้ ด้วยสถิติ 89.2 เปอร์เซนต์ เขาเหมาะสมแล้วหล่ะ กับตำแหน่งที่ว่างอยู่ของ สเคอร์เทล

     แม้จะมาอายุถึง 33 ปี แต่สภาพร่างกายของเขายังคงแข็งแกร่งไม่ต่างกับ สเคอร์เทล เห็นได้จากซีซั่นก่อนที่ ร็อดเจอร์ส เปลี่ยนตัวเขาลงสนามแทน แอ็กเกอร์ ในเกมกับ สวอนซี เพื่อลงมารับมือกับกองหน้าพันธุ์แกร่งอย่าง วิลเฟรด โบนี่ หากมองในแง่ของคุณภาพแล้ว ตูเร่ นี่แหละ คือตัวแทนที่ดูเข้าท่าที่สุด

โยก จัน ไปเล่นเซ็นเตอร์

 

     จัน เคยเปลี่ยนตัวกับ สเคอร์เทล ลงสนามในตำแหน่งกองหลัง แถมยังโชว์ฟอร์มได้อย่างน่าประทับใจ ร็อดเจอร์สเชื่อว่า จัน สามารถเติมเต็มในบทบาทนี้ได้ หลังฉายแววการเล่นเกมรับในแมตช์ที่เอาชนะ เบิร์นลีย์ 2-0 โดยให้สัมภาษณ์ไว้ว่า "เขาแข็งแกร่งเวลาเล่นกองหลัง ดุดันและรวดเร็ว เขาเคลื่อนที่ไปกับบอลได้ดีละสามารถเล่นในตำแหน่งกองกลางได้ด้วย และไม่ว่าจะตำแหน่งตรงกลางสนามหรือออกด้านข้าง คุณจะได้เห็นความความฉลาดของเขา"

     จัน มีความแข็งแกร่งและการอ่านเกมที่สูสีกับ สเคอร์เทล แม้การเล่นลูกกลางอากาศของเขาจะไม่ดีเท่าไหร่นัก (เอาชนะการดวลกลางอากาศ 1.8 ครั้งต่อเกม ครึ่งหนึ่งของ สเคอร์เทล) แต่หนุ่มน้อยวัย 21 ปีคนนี้จะเพิ่มมิติในการเล่นมากขึ้นเมื่อเขาได้ครองบอล

     แน่นอนว่าร็อดเจอร์สยังคงมีปัญหาทางฝั่งขวาของแนวรับ แต่การกลับมาของ จอน ฟลานาแกน น่าจะเป็นการแก้ปัญหาที่สมบูรณ์แบบ

เปลี่ยนแผนเป็นกองหลังสี่ตัว

     จัน, ตูเร่ หรือแม้กระทั่ง ลอฟเรน จะเป็นคู่หูในแดนหลังของ ซาโก้ ได้อย่างดี โดยจะมี จอน ฟลานาแกน, ฆาเบียร์ มานกีโญ่ และ อัลแบร์โต้ โมเรโน่ เติมเต็มในตำแหน่งแบ็คทั้งสองข้าง

     มีแนวโน้มว่าจะเกิดการเปลี่ยนสไตล์การเล่นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่ด้วยแผน 4-4-2 ไดมอนด์ ที่แสดงอานุภาพได้อย่างน่าเกรงขามเมื่อซีซั่นก่อน แผนนี้จึงดูไม่อยากเกินไปและไม่ไกลเกินเอื้อมสำหรับทีมของ เบรนแดน ร็อดเจอร์ส

ฟันธง

     ตัดสินจากความน่าสนใจและเรียบง่ายที่สุด การใช้ ตูเร่ ลงประจำการณ์แทนสเคอร์เทลที่โดนแบนถึง 3 นัด ดูจะเป็นอะไรที่ปลอดภัยที่สุดสำหรับ ร็อดเจอร์ส ตูเร่ มีทักษะในการเล่นเกมรับที่ดี เขามีความนิ่งและรู้ว่าจะต้องเล่นอย่างไรในบทบาทกองหลัง สำคัญที่สุดคือประสบการณ์ที่เขามีมากกว่าตัวเลือกอื่นๆในแนวรับทั้งทีม ลิเวอร์พูล ฟันธงดังฉับเลยว่าทางเลือกที่เวิร์คที่สุดสำหรับวิกฤติของทีมในตอนนี้ก็คือ ส่ง โคโล่ ตูเร่ เฝ้าหลังบ้านแทน สเคอร์เทล ทั้ง 3 นัด ไม่แน่ว่าเขาอาจจะทำหน้าที่ได้กว่าที่สเคอร์เทลเคยทำก็ได้ใครจะไปรู้

     แม้ปัจจุบันศึก พรีเมียร์ ลีก ลงเตะกันไปแล้วถึง 30 นัด อีกไม่นานก็ใกล้จะถึงเวลาปิดฤดูกาล แถมยังมีโปรแกรม เอฟเอ คัพ ให้ได้ลุ้นกันอีกหนึ่งรายการ เกมลีก 8 นัดเหลือก็ได้แต่เอาใจช่วยให้ ลิเวอร์พูล จบซีซั่นด้วยการคว้าอันดับ 4 ได้สำเร็จ แม้จะเป็นงานยาก แต่ก็เชื่อว่าทัพนักเตะ "หงส์แดง" จะสู้สุดความสามารถ สร้างความสุขให้แฟนบอลได้อย่างแน่นอน

ADS