หน้าแรก / ข่าวลิเวอร์พูล / พรีวิว พรีเมียร์ ลีก ลิเวอร์พูล -vs- แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด

พรีวิว พรีเมียร์ ลีก ลิเวอร์พูล -vs- แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด

BaBaOK 2015-03-22 14:04:48 พรีเมียร์ลีก
พรีวิว พรีเมียร์ ลีก ลิเวอร์พูล -vs- แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด

พรีวิว พรีเมียร์ ลีก ลิเวอร์พูล -vs- แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด

วันอาทิตย์ที่ 22 มีนาคม 2015 เวลา 20.30 น.

สนาม แอนฟิลด์

ถ่ายทอดสดช่อง CTH Stadium 2

ผู้ตัดสิน มาร์ติน แอตคินสัน

 

     ศึกพรีเมียร์ลีก นัดที่ 30 ลิเวอร์พูล เจ้าบ้านทีมอันดับ 5 เปิดรังแอนฟิลด์รับการมาเยือนของคู่ปรับตลอดกาลอย่าง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ทีมอันดับ 4 ที่ทั้งสองกำลังขับเคี่ยวแย่งตำแหน่งท็อป 4 กันอย่างเข้มข้น นัดก่อนที่พบกัน "หงส์แดง" บุกไปพ่ายถึงถิ่น โอลด์ แทรฟฟอร์ด ถึง 3-0 และต้องบอกเลยว่าการแข่งขันนัดนี้สำคัญกับทั้งสองฝ่ายอย่างมาก ถ้าลิเวอร์พูลชนะ จะกระโดดขึ้นไปอยู่อันดับ 4 แทน "ปีศาจแดง" แต่ถ้าแมนฯยูชนะ พวกเขาจะเกาะอันดับ 4 แถมทำแต้มทิ้งห่างออกจากลิเวอร์พูลไปเป็น 5 แต้ม

สภาพทีมล่าสุด : ลิเวอร์พูล

     ล่าสุด ร็อดเจอร์ส เพิ่งเผยว่า มาริโอ บาโลเตลลี่ และ ลูคัส เลว่า หายเจ็บกลับเข้าสู่ทีมอีกครั้งหลังจากช่วงฟื้นฟูสภาพร่างกายและได้ซ้อมกับเพื่อนร่วมทีมแบบเต็มรูปแบบ ทางด้านนักเตะที่ยังอาการน่าห่วงก็มีแค่หน้าเดิมๆอย่าง จอน ฟลานาแกน ฟูลแบ็คดาวรุ่งที่เจ็บยาวตั้งแต่ช่วงปรี-ซีซั่น และ จอร์ดอน ไอบ์ ปีกฟอร์มแรงที่ยังคงเจ็บเข่าไม่หาย

สภาพทีมล่าสุด : แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด

     จอห์นนี่ อีแวนส์ ต้องชดใช้โทษแบนในนัดนี้เป็นนัดที่ 3 จากทั้งหมด 6 นัด แต่จะได้ อังเคล ดิ มาเรีย ที่พ้นจากโทษแบน 1 นัด ที่ทำให้เขาไม่ได้ลงสนามในเกมกับ สเปอร์ส เมื่อสัปดาห์ก่อน แต่คาดว่าน่าจะได้เริ่มเกมที่ซุ้มม้านั่งสำรอง และยังมีอีกสองคนที่ยังเจ็บไม่หายคือ โรบิน ฟาน เพอร์ซีย์ ที่คาดว่าจะได้กลับมาลงสนามในอีก 2-3 สัปดาห์หน้า และ เจมส์ วิลวัน ที่ยังไม่ยืนยันระยะเวลาบาดเจ็บ ตามด้วย มาร์กอส โรโฮ และ ลุค ชอว์ ที่ไม่ฟิตพอลงสนามเป็นตัวจริงในนัดนี้้ แต่อาจจะได้เปลี่ยนตัวลงสนามหากเกิดเหตุจำเป็น

คีย์แมน

ลิเวอร์พูล : ราฮีม สเตอร์ลิ่ง

     สเตอร์ลิ่ง เป็นหนึ่งในผู้เล่นที่สำคัญที่สุดของลิเวอร์พูลที่สามารถฉีกกระชากแนวรับของคู่แข่งเป็นชิ้นๆหากฟอร์มเขาอยู่ในวันที่ฟอร์มเข้าฝัก แม้จะมีข่าวลือว่าเกิดความล่าช้าในการต่อสัญญาของเขา และเจ้าตัวเองก็ต้องการยื้อเอาไว้จนถึงช่วงซัมเมอร์ แต่นักเตะรายนี้ก็นำความเร็วทะลุนรกและพลังงานอันเปี่ยมล้นมาสู่ลิเวอร์พูล ซึ่งเป็นเหตุผลที่ว่าทำไม เบรนแดน ร็อดเจอร์ส จึงต้องการรั้งตัวเขาเอาไว้กับ "หงส์แดง"

     ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าเขาเป็นกำลังหลักของลิเวอร์พูลด้วยวัยเพียง 20 ปี ทำไป 6 ประตูจาก 27 นัดในลีก สร้างสรรค์โอกาสได้ 62 ครั้ง เฉลี่ยแล้วเท่ากับ 2.2 ครั้งต่อเกม จากสถิติข้างต้นบอก ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าเขาจะเป็นตัวอันตรายสำหรับกองหลังของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด อย่างแน่นอน

แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด : เวย์น รูนีย์

     ศูนย์หน้าร่างตันคลำเป้าเจออีกครั้ง ได้กลับไปเล่นในตำแหน่งถนัดหลังจากต้องไปประจำการณ์แดนกลางอยู่หลายนัด ทำได้ 3 ประตู จาก 3 นัดที่ผ่านมา
แบกรับภาระของทีมแทน โรบิน ฟาน เพอร์ซีย์ และ ราดาเมล ฟัลเกา แถมยังรีดฟอร์มเก่งกลับมาได้อย่างถูกที่ถูกเวลา นอกจากทำประตูได้แล้ว ยังแอสซิสต์ให้เพื่อนได้ถึง 4 ครั้งอีกด้วย

     ถึงแม้ รูนีย์ จะไม่เคยทำประตูใส่ลิเวอร์พูลได้เลย โดยเฉพาะในถิ่นแอนฟิลด์ แต่เขาก็เป็นนักเตะสำคัญของ "ปีศาจแดง" ที่ หลุยส์ ฟาน กัล จะต้องพึ่งพาเขาในการสร้างผลงานให้ทีมเหมือนกับที่เคยทำมาแล้วทั้งซีซั่นนี้

วาทะก่อนเกมของผู้จัดการทั้งสองทีม

เบรนแดน ร็อดเจอร์ส (ลิเวอร์พูล) :

     "มันไม่ยุติธรรมเลยสำหรับเจอร์ราร์ดที่ยังคงเป็นผู้เล่นที่ยอดเยี่ยมในตอนนี้ แต่เมื่อเขาได้รับบาดเจ็บ ก็มีคนที่พยายามเขียนเรื่องราวๆต่างๆมากมายโดยไม่มีเขาอยู่ในนั้น ตอนนี้เขากลับมาแล้ว และมันอาจไม่ได้เป็นเรื่องราวที่พวกเขาต้องการ แต่เจอร์ราร์ดก็มุ่งมั่นทุ่มเททุกอย่าง เขาเป็นแฟนของสโมสรนี้ และการสนับสนุนจากนักเตะอย่าง จอร์แดน เฮนเดอร์สัน และโจ อัลเลน เป็นอะไรที่สุดยอดมากๆ"

หลุยส์ ฟาน กัล ( แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด) :

     "ลิเวอร์พูลไม่ใช่ทีมที่เราจะเอาชนะได้บ่อยๆ แต่เมื่อเราชนะนั่นแสดงให้เห็นว่าพวกเราพัฒนามากขึ้น ผมอยากเอาชนะพวกเขาอีกครั้ง มันสำคัญมาก และผมคิดว่าผู้เล่นทุกคนรู้ดีถึงความสำคัญของเกมนี้ เราอยู่ในช่วงที่สำคัญต่อทีมอย่างมากและเราจะแพ้ไม่ได้ในเกมนี้"

ฟอร์มการเล่น

     ลิเวอร์พูลเป็นทีมเดียวเท่านั้นที่ยังไม่แพ้ให้ใครเลยในปี 2015 เก็บได้ 26 แต้มจากทั้งหมด 30 แต้ม นับตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม แถมนัดล่าสุดยังเพิ่งบุกไปเฉือนชนะ สวอนซี คาบ้าน 1-0 ทำแต้มจี้ติดอันดับ 4 เข้าไปเรื่อยๆ ทางด้าน แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ผู้มาเยือนก็ต้องบอกว่าผลงานไม่ธรรมดา แพ้เพียง 2 ครั้งเท่านั้นจากเกมลีก 19 นัดหลังสุด โดยแมตช์ที่ผ่านมาก็เพิ่งโชว์ฟอร์มโหด เปิดบ้านถล่ม ท็อตแน่ม ฮอตสเปอร์ส ไป 3-0 ขับเคี่ยวแย่งอันดับ 4 กับลิเวอร์พูลอย่างดุเดือด

ประวัติการพบกัน

     ลิเวอร์พูลแพ้เพียงครั้งเดียวเท่านั้นจากการพบกับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 7 นัดหลังสุดในทุกรายการ (ชนะ 5 เสมอ 1) โดยมีการเสมอกันเพียงแค่ครั้งเดียวจากการเจอกันใน 18 นัดหลังสุด และแมตช์ที่ "หงส์แดง" เอาชนะได้ 1-0 ในซีซั่นก่อน เป็นครั้งที่สองจากการพบกันในลีก 8 นัดหลังสุดที่ "ปีศาจแดง" ไม่สามารถทำประตูได้ในถิ่นแอนฟิลด์

รายชื่อนักเตะที่คาดว่าจะลงสนาม

 

ลิเวอร์พูล (3-4-3) : ซิมง มิโญเล่ต์ - มามาดู ซาโก้, มาร์ติน สเคอร์เทล, เอ็มเร่ จัน - อัลเบร์โต้ โมเรโน่, โจ อัลเลน, จอร์แดน เฮนเดอร์สัน, ลาซาร์ มาร์โควิช - ฟิลิปเป้ คูตินโญ่, ราฮีม สเตอร์ลิ่ง, อดัม ลัลลาน่า

แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด (4-1-4-1) : ดาบิด เด เกอา - อันโตนิโอ บาเลนเซีย, คริส สมอลลิ่ง, ฟิล โจนส์, ดาลีย์ บลินด์ - ไมเคิล คาร์ริค - ฆวน มาต้า, มารูยาน เฟลไลนี่, อันเดร์ แอร์เรร่า, แอชลีย์ ยัง - เวย์น รูนีย์

ทรรศนะ Siamliverpool

     แมตช์แดงเดือดนัดนี้บอกตามตรงว่าคาดเดายาก ดูแล้วจะต้องเป็นการแข่งขันที่สู้กันด้วยกลยุทธ์ของทั้งสองทีมที่มีสไตล์การเล่นแตกต่างกัน แม้ทั้งสองฝ่ายอาจจะดูสูสีกัน แต่เชื่อว่านัดนี้ไม่มีผลเสมอให้เห็นแน่ๆ แต่ก็ไม่น่ามีการทำประตูกันแบบถล่มทลายเช่นกัน หรืออาจจะมีใบแดงเกิดขึ้นในเกมนี้ก็ได้ใครจะรู้ แต่ขอยกเครดิตให้กับ ลิเวอร์พูล ที่ทำสถิติไร้พ่ายในลีกมาได้หลายนัดนับตั้งแต่ไปพ่ายให้กับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในเลกแรก ถึง 3-0 เชื่อว่าสุดท้ายแล้วผลการแข่งขันต้องจบลงด้วยการเฉือนชนะของเจ้าบ้านอย่างแน่นอน

ฟันธง : ลิเวอร์พูล ชนะ 1-0

ADS