ผลสอบนักเตะหลังเกมเจ๊าจืด "กุหลาบไฟ"

ผลสอบนักเตะหลังเกมเจ๊าจืด "กุหลาบไฟ"

          กลายเป็นทีมจอมรีเพลย์ไปแล้ว สำหรับ "หงส์แดง" ลิเวอร์พูล หลังจากเปิดบ้านเสมอโนสกอร์กับ แบล็คเบิร์น โรเวอร์ส ในศึก เอฟเอ คัพ รอบก่อนรองชนะเลิศ เมื่อค่ำคืนวันอาทิตย์ที่ 8 มีนาคม ที่ผ่านมา ซึ่งทำให้ลูกทีมของ เบรนแดน ร็อดเจอร์ส ต้องลงเล่นเกมนัดรีเพลย์สองรอบติดต่อกัน (ก่อนหน้านี้กับ โบลตัน วันเดอเรอร์ส) โดยเกมนี้ผลงานของเหล่าแข้ง "เร้ดแมชชีน" จะเป็นอย่างไรกันบ้าง ติดตามชมกันได้รายตัวเลยครับพี่น้อง

ตัวจริง

ซิมง มิโญเล่ต์ - 7 (คะแนนเต็ม 10)

          แม้ว่าจังหวะเซฟในเกมนี้อาจจะน้อยไปสักนัด แต่ มิโญเล่ต์ ก็มีช็อตเซฟสวย ๆ โดยเฉพาะจังหวะบินปัดลูกโขกของ อเล็กซ์ บ๊าปติสเต้ นับเป็นการป้องกันประตูที่ทำให้เขาหล่อขึ้นมาทันที รับไป 7 คะแนน (รักษาฟอร์มแบบนี้ต่อไปนะ ^^)

เกล็น จอห์นสัน - 6

          นัดนี้เป็นการลงเกมรับที่ง่ายที่สุดของเขาในรอบหลายเกมที่ผ่านมา เพราะหัวหอกของ "กุหลาบไฟ" อย่าง รูดี้ เกสเตด มักจะไปป้วนเปี้ยนอยู่บริเวณกลางสนามมากกว่า ทำให้งานของ จอห์นสัน แทบจะไม่เจออะไรเลย และยังหาจังหวะขึ้นมาเติมเกมรุกริมเส้นกาบขวาได้หลายครั้ง แต่เขาก็ยังติดปัญหาการจ่ายบอลที่ไม่ค่อยแม่นยำสักเท่าไหร่นัก

มาร์ติน สเคอร์เทล - ไม่มีคะแนน

          น่าเสียดายที่ปราการหลังสโลวาเกียรายนี้ ได้ลงเล่นเพียงไม่นานก่อนถูกหามออกจากสนาม แม้ว่าเจ้าตัวจะไม่เป็นอะไรมากนัก แต่เพื่อความปลอดภัยจึงตัดสินใจไม่ลงเล่นต่อตามคำสั่งของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ

เดยัน ลอฟเรน - 5

          อดีตกองหลังของ เซาท์แฮมป์ตัน โชว์ฟอร์มได้ดีขึ้นจากหลาย ๆ นัดที่ผ่านมา แต่เขาก็ยังมีจังหวะพลาดเล็ก ๆ น้อย ๆ ให้กองเชียร์ได้เสียวสันหลังไปตาม ๆ กัน แม้ว่าเขาจะเล่นได้ดีขึ้น แต่ก็ยังถือว่าทำผลงานได้แย่ที่สุดเมื่อเปรียบเทียบกับอีก 2 แนวรับที่เหลือ

เอ็มเร่ ชาน - 5.5

          เป็นหนึ่งในนักเตะที่เซ็นสัญญาเข้ามาสู่ทีมแล้วคุ้มค่าที่สุด เพราะเนื่องจากจะเป็นกองหลังได้แล้ว ก็ยังลงเล่นในบทบาทมิดฟิลด์ตัวกลางได้ค่อนข้างดี (ซึ่งจริง ๆ แล้วเขาถนัดในตำแหน่งมิดฟิลด์มากกว่า) กลายเป็นนักเตะสารพัดประโยชน์ไปเลยทีเดียว โดยเกมนี้เขาพยายามจะไปกับบอลมากเกินไป จนทำให้เลี้ยงไปติดแนวรับของ แบล็คเบิร์น โรเวอร์ส แต่ก็ยังมีหลายจังหวะที่เขาพลิกบอลสวย ๆ ให้แฟนบอลได้ชื่นใจอยู่บ้าง

จอร์แดน เฮนเดอร์สัน - 6.5

          บอกตรง ๆ ว่าในช่วงต้นครึ่งแรกแทบจะไม่เห็น "กัปตันเฮนโด้" ได้บอลด้วยซ้ำไป ซึ่งเขาเป็นนักเตะปิดทองหลังพระตัวจริงในเกมนี้ เนื่องด้วยบทบาทที่ต้องเล่นแทน โจ อัลเลน ทำให้ เฮนเดอร์สัน ลดความโดดเด่นลงมาด้วยการเล่นเกมรับมากกว่าเกมรุก แต่เขาก็สามารถช่วยไล่บอลแดนกลางได้อย่างยอดเยี่ยม แถมเกมนี้ยังออกบอลได้อย่างแม่นยำอีกด้วย เสียดายที่วันนี้ไม่มีโอกาสได้ลองส่องไกลเหมือน 2-3 เกมที่ผ่านมา

ลาซาร์ มาร์โควิช - 5.5

          กลายเป็นนักเตะธรรมดา ๆ ที่ไม่มีพิษสงไปดื้อ ๆ เลย สำหรับปีกลมกรดรายนี้ ไม่ว่าจะเป็นการกระชากลากเลื้อยที่น่าจะทำได้ดี แต่ในเกมนี้กลับเลี้ยงบอลทื่อ ๆ ซะอย่างนั้น ซึ่งน่าจะเกิดจากความมั่นใจที่ลดน้อยลง บวกกับความฟิตที่ยังไม่เข้าที่ จนบางครั้งต้องเป็นหน้าที่ของ เกล็น จอห์นสัน เติมเกมริมเส้นแทนด้วยซ้ำ หวังว่าเกมต่อไปเขาจะเพิ่มความดุดันและความอันตรายมากขึ้นกว่านี้

ราฮีม สเตอร์ลิง - 6.5

          สตาร์ดังชาวอังกฤษถูกโยกไปเล่นเป็นวิงแบ็คฝั่งซ้าย ซึ่งเขาก็ทำหน้าที่พอใช้ได้ประมาณหนึ่ง แม้ว่าหลายจังหวะจะพยายามฝืนเล่นยากไปสักเล็กน้อย แต่ด้วยฝีเท้าและสปีดของเขาก็ยังสามารถเอาตัวรอดไปได้เรื่อย ๆ แถมยังมีโอกาสได้เข้าไปป่วนเกมรับของ แบล็คเบิร์น โรเวอร์ส หลายต่อหลายครั้ง น่าเสียดายที่ไม่สามารถเปลี่ยนเป็นประตูได้

อดัม ลัลลานา - 5

          เงียบพอ ๆ กับ ลาซาร์ มาร์โควิช สำหรับตัวรุกหน้าหล่อ อดัม ลัลลานา ซึ่งในเกมนี้เขาไม่สามารถสร้างจังหวะทำเกมสวย ๆ ได้เลย แถมยังโดนนักเตะของ "กุหลาบไฟ" ประกบติดเป็นตังเมชนิดไปไหนไปด้วยตลอดเวลา หากผมเป็น ลัลลานา ก็คงหงุดหงิดไม่น้อย ทำเอาเล่นไม่ออกไปเลย

ฟิลิปเป้ คูตินโญ่ - 5

          ดูเหมือนว่าแมตช์นี้จะไม่ใช่เกมที่ดีสำหรับแผงกลางของ ลิเวอร์พูล แม้ว่าทุกคนจะเล่นได้ดีในจังหวะเพรสซิ่งและการต่อบอล แต่ในเรื่องของเกมรุกในพื้นที่สุดท้ายกลับทำได้ไม่ดีเท่าที่ควร และหนึ่งในนั้นก็คือ ฟิลิปเป้ คูตินโญ่ ซึ่งเขาถูกประกบติดไม่แพ้กันกับ อดัม ลัลลานา จนทำให้ไม่สามารถสร้างสรรค์เกมรุกได้ตามถนัด

แดเนี่ยล สเตอร์ริดจ์ - 5

          น่าผิดหวังเล็กน้อยสำหรับ "เต้ยโศก" เพราะนอกจากจะหาจังหวะยิงประตูได้น้อยนิดแล้ว ยังแทบจะไม่ได้บอลในกรอบเขตโทษเลยด้วยซ้ำ ทำให้เกมนี้แลดูเงียบผิดปกติ แม้ว่าจะมีจังหวะได้ซัดทักทาย ไซม่อน อีสต์วู้ด ในช่วงครึ่งแรกบ้างก็ตาม

ตัวสำรอง

โคโล ตูเร่ - 6.5 (ลงสนามแทน มาร์ติน สเคอร์เทล ในนาทีที่่ 11)

          หลังจากเริ่มเกมไปไม่นาน ยอดเซ็นเตอร์แบ็คก็ได้รับโอกาสลงสนามทันที ซึ่งเขาก็ลงสนามมาทำหน้าที่ได้ดีกว่าที่แฟน ๆ กลัวกัน และยังทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม ทั้งเกมรับและจังหวะลุ้นลูกตั้งเตะ น่าเสียดายว่าประตูที่เขายิงเต็มข้อเข้าไปตุงตาข่ายนั้น เป็นลูกล้ำหน้าเสียก่อน แถมเกมนี้ต้องเจอกับศึกหนักอย่าง รูดี้ เกสเตด ที่ไล่เก็บนักเตะ ลิเวอร์พูล ไปทีละคนสองคน แต่สบายใจได้ ตูเร่ เอาอยู่

มาริโอ บาโลเตลลี่ - 6 (ลงสนามแทน ลาซาร์ มาร์โควิช ในนาทีที่่ 59)

          ลงสนามมาด้วยความหวังอันยิ่งใหญ่ของแฟน ๆ ซึ่งก็เป็นไปตามคาดกับฟอร์มการเล่นสุดอาร์ตของเขา ทั้งการไปกับบอลและการวิ่งหาช่องในเกมนี้ทำได้ดีพอสมควร แต่สุดท้ายก็ยังทำอะไรไม่ได้เป็นชิ้นเป็นอัน โดยเฉพาะจังหวะยิงเปาะแปะทำเอาแฟนบอลผิดหวังไปตาม ๆ กัน

ผู้จัดการทีม

เบรนแดน ร็อดเจอร์ส - 5

          บอกตรง ๆ ว่าเกมนี้เป็นการวางแผนที่ล้มเหลวพอสมควรของ ร็อดเจอร์ส ซึ่งการพัก โจ อัลเลน ถือเป็นเรื่องที่ไม่ว่ากัน แต่การขยับ ราฮีม สเตอร์ลิง ไปเล่นเป็นวิงแบ็คดูเหมือนจะเป็นการตัดสินใจที่ผิดพลาด เพราะทำให้เขาไม่กล้าขึ้นสูงเข้าไปเล่นในกรอบเขตโทษสักเท่าไหร่ แถมการส่งสำรองลงสนามยังเลือกใช้ บาโลเตลลี่ ก่อน ริคกี้ แลมเบิร์ต ซึ่งเอาเข้าจริงแล้ว กองหลังสไตล์หนักแบบ "กุหลาบไฟ" ต้องใช้ความใหญ่เข้าชนมากกว่า หวังว่าเกมหน้าที่จะพบกับ สวอนซี ซิตี้ จะกลับมาคืนฟอร์มเก่งได้ทั้งเทรนเนอร์และทั้งนักเตะ