หน้าแรก / ข่าวลิเวอร์พูล / 4 เรื่องดีๆ ที่ "หงส์"ควรดีใจหลังชิงตกรอบยูโรป้า ลีก

4 เรื่องดีๆ ที่ "หงส์"ควรดีใจหลังชิงตกรอบยูโรป้า ลีก

4 เรื่องดีๆ ที่ หงส์ควรดีใจหลังชิงตกรอบยูโรป้า ลีก

     ถึงแม้ว่า ลิเวอร์พูล อาจจะต้องชอกช้ำและผิดหวังน่าเสียดายที่ต้องกระเด็นตกรอบจากฟุตบอล ยูโรป้า ลีก เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา แต่มันก็ไม่ใช่เรื่องที่น่าเสียใจแบบสุดเสียเมื่อไหร่เล่า วันนี้เราจะมาคุยกันถึงข้อดี 4 อย่างของการตกรอบ ยูโรป้า ลีกในครั้งนี้กัน

     แน่นอนว่าการเป็นผู้แพ้มันใช่เรื่องง่ายๆ เสมอ โดยเฉพาะยิ่งถ้าแพ้ดวลจุดโทษด้วยนี่ยิ่งช้ำหนัก และแฟนหงส์ต่างก็อยากจะให้ทีมของ เบรนแดน ร็อดเจอร์ส เข้ารอบให้ลึกที่สุดในรายการนี้ แต่ยิ่งสูงก็ยิ่งหนาว ยิ่งเข้ารอบลึก ปัญหายิ่งตามตัวเป็นเหมือนเงา

     ความจริงคือเกมที่ผ่านมา เราไม่มีผู้เล่นระดับซีเนียร์ในทีมถึง 8 คนที่มีอาการบาดเจ็บบ้าง ล้าบ้าง เลยต้องมีการถอนตัวเพื่อให้พักรักษาความสด ฟิตร่างกายให้พร้อม เพื่อจะได้ไม่ต้องมีข้ออ้างในเกมกับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ในคืนวันอาทิตย์นี้

     ดังนั้นต่อจากนี้ไป นี่คือเหตุผล 4 ประการ ที่สาวก ลิเวอร์พูล อาจจะพอยิ้มได้บ้างแม้ต้องตกรอบก็ตาม

ไม่มีแมตช์แข่งขันวันพฤหัสอีกต่อไป

ISTANBUL, TURKEY - Thursday, February 26, 2015: Liverpool's Dejan Lovren looks dejected after missing the vital fifth penalty against Besiktas JK in the shoot-out after a 1-1 aggregate draw during the UEFA Europa League Round of 32 2nd Leg match at the Ataturk Olympic Stadium. (Pic by David Rawcliffe/Propaganda)

     ฤดูกาลนี้อาจเป็นโบนัสของทีมที่ได้มาเข้าร่วม ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รายการที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของยุโรป แต่เราก็คงเห็นแล้วว่าทีมยังไม่พร้อมและดีพอในการเล่นถ้วยใบใหญ่นี้ จนส่งผลให้ต้องมาเล่น ยูโรป้า ลีก แทน

     อยากที่เห็นๆ กัน เกมในถ้วยนี้จัดว่าเล่นกันแบบจัดหนักมาก โดยเฉพาะการปะทะที่รุนแรง แถมยังมีเวลาเตรียมตัวน้อยมากๆ ในแต่ละเกม

     หงส์แดงเจอปัญหาเสมอยามต้องเล่นในถ้วยลักษณะนี้ ชัดเจนคือในสมัย ราฟา เบนิเตซ ซีซั่น 2009-10 รวมไปถึง ท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์ส ที่ประสบในปีนี้ และสุดท้ายก็ร่วงตกรอบตามเราไป

ลดความเสี่ยงอาการเหนื่อยและปัญหาการบาดเจ็บ

LIVERPOOL, ENGLAND - Tuesday, December 9, 2014: Liverpool's Raheem Sterling looks dejected against FC Basel during the final UEFA Champions League Group B match at Anfield. (Pic by David Rawcliffe/Propaganda)

     ในสัปดาห์ล่าสุด ลิเวอร์พูล เจอกับปัญหานักเตะบาดเจ็บนับไม่ถ้วน รวมแล้วก็ 8 ราย ขณะที่โปรแกรมการแข่งขันก็กระชั้นชิดขึ้นมาทุกขณะ

     ไม่ว่าจะเป็น สตีเว่น เจอร์ราร์ด และ ลูคัส เลว่า ที่หายหน้าไปนานตั้งแต่เดือนก่อน ขณะที่ผู้เล่นตัวหลักอย่าง มามาดู ซาโก้ และ จอร์แดน เฮนเดอร์สัน ก็มีปัญหาเจ็บเล็กน้อยคอยรบกวน

     เช่นกันกับพวกกลุ่มที่เริ่มกรอบและอ่อนล้า อย่าง ฟิลิปเป้ คูตินโญ่ ที่เล่นต่อเนื่อง 19 เกมรวด ขณะที่ เอ็มเร่ ชาน และ ราฮีม สเตอร์ลิ่ง ก็ดูจะเหนื่อยๆ ไม่น้อยจากการเจอ เบซิคตัส ด้วยสไตล์การเล่นของทีมที่เน้นความเร็วและความคล่องแคล่ว ดังนั้นการตัดรายการแข่งนี้ออกไป ย่อมมีผลดีต่อเรื่องนี้อย่างมาก

มีเวลาคุมทีมมากขึ้น

ISTANBUL, TURKEY - Thursday, February 26, 2015: Liverpool's manager Brendan Rodgers before the UEFA Europa League Round of 32 2nd Leg match against Besiktas JK at the Ataturk Olympic Stadium. (Pic by David Rawcliffe/Propaganda)

     "มีหลายคืนที่ต้องตื่นนอนตั้งแต่ ตี 4 ลงมาทำกับข้าว จากนั้นก็มานั่งคิดว่าจะมีวิธีไหนที่จะทำให้ทีมดีขึ้นบ้าง"

     นี่คือคำพูดของบอสหลังจบเกมเสมอ ฮัลล์ ซิตี้ 0-0 ในบ้านเมื่อเดือนตุลาคม ตอนนั้นทีมกำลังเป่ได้ที่เลย แม้ตอนนี้ทีมจะอัพเกรดมากแล้ว แต่คำพูดนี้ก็มีความหมาย เพราะทีมต้องเสียเวลาการฝึกซ้อมไปมาก เพื่อสละเวลาให้การเดินทางไปยังสนามต่างๆ ซึ่งส่งผลเสียร้ายแรงในการเตรียมทีมให้พร้อม

     แต่ต่อจากนี้จะไม่มีเกมยุโรปให้เล่นอีกแล้ว ร็อดเจอร์ส ก็จะมีเวลามากขึ้นในการสั่งสอนแท็คติกและดูแลความฟิตของนักเตะไปจนจบฤดูกาล ฟังดูดีจริงๆ

ไม่ต้องพะวงหน้าพะวงหลัง

SOUTHAMPTON, ENGLAND - Sunday, February 22, 2015: Liverpool's Raheem Sterling celebrates scoring the second goal against Southampton with team-mates Jordan Henderson and Alberto Moreno during the FA Premier League match at St Mary's Stadium. (Pic by David Rawcliffe/Propaganda)

     การที่มีคิวให้เล่นในหลายๆ รายการ ทำให้เกิดคำถามว่าทีมจะจบท็อปโฟร์ได้ไหม? แล้วแชมป์ ยูโรป้า ล่ะจะเอาไหม? ถ้วย เอฟเอ คัพ เราก็อยากได้อยู่นะ?

     แต่การแพ้ เบซิคตัส คือการยุติคำถามทั้งหมดที่ว่า ทุกอย่างจะมีเป้าหมายชัดเจนขึ้น ไม่ต้องมานอนคิดว่าคืนนี้จะโรเตชั่นใครอีก เท่ากับว่างานของ ร็อดเจอร์ส จะง่ายขึ้นเป็นกอง

     เป้าหมายอันดับในลีกจะชัดเจนที่สุด นี่คือความจริงว่าเกมลีก อีก 12 นัด ไม่ต่างจากบอลถ้วย 12 เกมนัดชิง ที่เราต้องชนะให้ได้เพื่อไปเล่น ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ซีซั่นหน้า

     ถ้วย เอฟเอ คัพ ก็ยังมีความหมาย ตอนนี้คือถ้วยเดียวที่ยังมีลุ้นอยู่ของปีนี้ ฉะนั้นการพลาดหวัง ยูโรป้า ไม่ใช่ว่าโลกของเราจะจบแต่เพียงเท่านี้

     ดังนั้นระหว่างเล่นอีก 7 เกม เพื่อแชมป์ ยูโรป้า กับ 12 เกมลีกเพื่อไปเล่น แชมเปี้ยนส์ ลีก ต้องเลือกเอาครับว่า อยากให้ทีมยิ่งใหญ่ในระยะยาวหรือแค่เล่นฉาบฉวยไปวันๆ แล้วได้โควต้าเหมือนกัน แบบไหนมันจะดีกว่ากับทีม ลองคิดดีๆ นะครับทุกคน

ADS