พรีวิว ยูโรป้า ลีก เบซิคตัส -vs- ลิเวอร์พูล

พรีวิว ยูโรป้า ลีก เบซิคตัส -vs- ลิเวอร์พูล

วันพฤหัสบดีที่ 27 กุมภาพันธ์ 2015 เวลา 01.00 น.

สนาม อตาเติร์ก โอลิมปิยัต สตาดี้

ถ่ายทอดสดช่อง Truesport 1, Truesport HD 2

ผู้ตัดสิน ดาเมียร์ สโกมิน่า

     แมตช์นัดที่สองของศึกยูโรป้า ลีก รอบ 32 ทีมสุดท้าย หลังจากนัดแรกเป็น ลิเวอร์พูล ที่เปิดบ้านเฉือนชนะผู้มาเยือนจากแดนไก่งวงไป 1-0 และในนัดนี้จะเป็นเกมตัดสินชะตาของทั้งสองทีมว่าใครจะอยู่หรือใครจะได้เข้ารอบต่อไป คืนนี้รู้กันแน่นอน

สภาพทีมล่าสุด : เบซิคตัส

     เจ้าบ้านจะไม่มี เออร์ซาน กูลัม และ ราม่อน มอตต้า ที่ติดโทษแบนด้วยกันทั้งคู่ ขณะที่ ทอลก้า เซนกิน, อิสมาอิล คอยบาซี่, เซงค์ โทซัน, อเล็กซานเดอร์ มิโลเซวิช รวมไปถึงปีกตัวเก่งอย่าง โกคาน โตเร่ ที่เพิ่งเปิดเผยว่าได้รับบาดเจ็บจากเลกแรก แต่ข่าวดีคือจะได้ เดมบ้า บา ดาวซัลโวของทีม หายเจ็บกลับมาลงเล่นเกมนี้ หลังพลาดลงสนามในลีกสุดสัปดาห์ก่อน จากปัญหาอาการบาดเจ็บบริเวณน่อง

สภาพทีมล่าสุด : ลิเวอร์พูล

     แดเนียล สเตอร์ริดจ์ ที่ได้พักในเกมลีกนัดก่อน น่าจะได้กลับลงสนามเป็นตัวจริงในเกมนี้ ขณะที่ ลิเวอร์พูล จะไม่มีนักเตะอย่าง จอร์แดน เฮนเดอร์สัน ที่มีปัญหาอาการบาดเจ็บ รวมไปถึงฟิลิปเป้ คูตินโญ่ ทีพักเอาไว้ใช้งานเกมกับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ หลังจากลงเล่นมา 19 นัดติดต่อกัน และ ลาซาร์ มาร์โควิช ที่ต้องชดใช้โทษแบนนัดที่ 2 จาก 4 นัดของเขาในเกมนี้ โดยทั้งสามจะไม่ได้ร่วมทีมกับเพื่อนๆไป ตุรกี นอกจากนี้ยังมีนักเตะที่ได้รับบาดเจ็บเพิ่มเติมล่าสุดคือ มามาดู ซาโก้ และ เกล็น จอห์นสัน

คีย์แมน

เบซิคตัส : เดมบ้า บา

     ศูนย์หน้าวัย 29 ปี ชาวเซเนกัล โชว์ฟอร์มในซีซั่นนี้ได้อย่างน่าประทับใจ เป็นหัวหอกคนสำคัญที่ทีมขาดไม่ได้ เรียกได้ว่าไม่ลงสนามนัดไหนทำเอาทีมอ่อนปวกเปียก ลดความน่ากลัวของ เบซิคตัส ไปมากพอสมควร

     ผลงานของเขาต้องบอกเลยว่ายอดเยี่ยมทั้งในลีกและบอลถ้วย โดยเฉพาะในลีก ตุรกี ลงสนาม 16 นัด ซัดไปถึง 13 ตุง และในยูโรป้า ลีก อีก 7 นัด ก็กดไป 5 ประตู และจากในเลกแรกก็ทำให้ได้เห็นกันแล้วว่า เขาเป็นตัวอันตรายต่อกองหลังของ ลิเวอร์พูล โดยแท้

ลิเวอร์พูล : แดเนี่ยล สเตอร์ริดจ์

     นับตั้งแต่ศูนย์หน้าชาว อังกฤษ รายนี้รีเทิร์นกลับสู่ทีม หลังจากร้างสนามมาตั้งแต่เดือนสิงหาคม และได้พักในแมตช์สุดสัปดาห์ก่อนกับ เซาธ์แฮมป์ตัน จินตนาการไว้ได้เลยว่า เขาจะรู้สึกคึกแค่ไหนที่จะได้ลงทำศึกสำคัญนัดนี้

     ด้วยการไล่ล่าตำแหน่งท็อปโฟร์ที่กำลังขับเคี่ยวกันอย่างดุเดือด สเตอร์ริดจ์ จะใช้เกมกับ เบซิคตัส นัดนี้เป็นโอกาสใหญ่ในการผลิตสกอร์ ไม่ใช่แต่เพื่อสถิติส่วนตัวของเขาเอง แต่เพื่อทีมของเขาด้วยทั้งใน ยูโรป้า ลีก และ พรีเมียร์ลีก

วาทะก่อนเกมของผู้จัดการทั้งสองทีม

สลาเวน บิลิช (เบซิคตัส) : "เราต้องอดทน เราต้องการประตู เราต้องตั้งรับได้ดีกว่าเดิม เราแสดงให้เห็นถึงความสร้างสรรค์เมื่อเข้าสู่พื้นที่อันตราย แต่เราไม่สามารถทำสกอร์ได้ เกมพรุ่งนี้ก็เหมือนสถานการณ์เดิม เราต้องโชว์ฟอร์มอย่างแข็งแกร่งที่สุดเพื่อเอาชนะ ลิเวอร์พูล แม้ตอนนี้ ลิเวอร์พูล กุมความได้เปรียบเอาไว้ แต่เราก็ยังมีโอกาส"

เบรนแดน ร็อดเจอร์ส (ลิเวอร์พูล) : "เรามีผู้เล่นบางคนได้รับบาดเจ็บ แต่เรายังแข็งแกร่งพอจะทำภารกิจให้สำเร็จลุล่วงได้ พื้นสนามที่กว้างใหญ่ของพวกเขาเหมาะกับสไตล์การเล่นที่รวดเร็วและความเคลื่อนไหวของเรา พวกเราเคารพคู่ต่อสู้ เข้าใจดีว่านี่เป็นเกมที่ยาก แต่เราก็เล่นได้ดีมากยากออกไปเยือนนอกบ้าน"

ฟอร์มการเล่น

     เจ้าบ้าน เบซิคตัส ฟอร์มไม่สู้ดีนัก 5 นัดหลังสุดพวกเขาแพ้ถึง 3 ครั้ง แต่เป็นการแพ้ยามออกนอกบ้านทั้งสิ้น ส่วนผลงานในบ้านพวกเขาชนะติดต่อกัน 3 นัดหลังสุด ทางด้าน ลิเวอร์พูล ฟอร์มยังคงแรงเช่นเคย ไม่แพ้ใครเลยในลีก 10 นัดติดต่อกัน ถ้านับจากทุกรายการใน 20 นัด พวกเขาแพ้เพียงแค่นัดเดียวเท่านั้น

ประวัติการพบกัน

     ทั้งสองทีมเคยโคจรมาพบกัน 3 ครั้ง สองครั้งแรกในศึก ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก 2007/08 นัดแรกเมื่อวันที่ 25 ตุลาคม 2007 เบซิคตัส ทำช็อคเปิดบ้านเอาชนะ ลิเวอร์พูล ไปได้ 2-1 แต่ "หงส์แดง" ก็เอาคืนได้อย่างโหดร้ายทารุณกรรม ถล่ม เบซิคตัส คาถิ่น แอนฟิลด์ 8-0 และครั้งที่ 3 ก็คือเกม ยูโรป้า ลีก เลกแรกเมื่อสัปดาห์ก่อนที่ ลิเวอร์พูล เป็นฝ่ายเฉือนชนะไป 1-0

รายชื่อนักเตะที่คาดว่าจะลงสนาม

เบซิคตัส (4-2-3-1) : เก็งค์ โกเนน - เซอร์เดอร์ คูร์ตูลูส, เปโดร ฟรังโก้, เออร์ซาน กูลูม, ราม่อน - โอกูซาน ออซยาคุป, เวลี่ คาฟล๊าค - เคริม ฟราย, โฮเซ่ โซซ่า, โอลคาย ชาฮาน - เด็มบ้า บา

ลิเวอร์พูล (3-4-2-1) : ซิมง มิโญเล่ต์ - เดยัน ลอฟเรน, มาร์ติน สเคอร์เทล, โคโล่ ตูเร่ - อัลเบร์โต้ โมเรโน่, โจ อัลเลน, เอ็มเร่ ชาน, จอร์ดอน ไอบ์ - อดัม ลัลลาน่า, ราฮีม สเตอร์ลิ่ง, แดเนี่ยล สเตอร์ริดจ์

ทรรศนะ Siamliverpool

     เจ้าบ้าน เบซิคตัส ยังคงประสบกับปัญหาผู้เล่นบาดเจ็บหลายคน ซึ่งก็หมายความว่าสภาพทีมไม่ค่อยสมบูรณ์เท่าไหร่นัก ล่าสุดเกมลีกเมื่อสุดสัปดาห์ก็เพิ่งแพ้มาอีกด้วย ต่างกลับ ลิเวอร์พูล ที่กำลังอยู่ในช่วงฟอร์มสุดยอด เพิ่งเอาชนะ เซาธ์แฮมป์ตัน มาได้เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา เร่งทำแต้มไต่อันดับท็อป 4 สำหรับเกมนี้แม้ เดมบ้า บา จะอันตรายสำหรับกองหลังของ ลิเวอร์พูล แต่ด้วยความได้เปรียบที่ ลิเวอร์พูล เป็นฝ่ายเอาชนะในนัดแรก บวกกับตอนนี้ทั้งทีมกำลังมั่นใจแบบสุดๆ เชื่อว่านัดนี้จะบุกไปเฉือนชนะ เบซิคตัส ได้ถึงตุรกีแน่นอน

ฟันธง : ลิเวอร์พูล ชนะ 1-0