หน้าแรก / ข่าวลิเวอร์พูล / คะแนนความสามารถ เอฟเอ คัพ คริสตัล พาเลซ 1-2 ลิเวอร์พูล

คะแนนความสามารถ เอฟเอ คัพ คริสตัล พาเลซ 1-2 ลิเวอร์พูล

คะแนนความสามารถ เอฟเอ คัพ คริสตัล พาเลซ 1-2 ลิเวอร์พูล

คะแนนความสามารถ เอฟเอ คัพ คริสตัล พาเลซ 1-2 ลิเวอร์พูล

ซิมง มิโญเล่ต์ 8/10

Simon Mignolet celebrates at the end of the match

     โชคร้ายกับประตูที่เสียไปแบบดวงซวย จากนั้นก็รับมือได้ดีกับลูกเซตพีทของ คริสตัล พาเลซ พร้อมโชว์ซูเปอร์เซฟป้องกันการยิงของ เกย์ล ในท้ายครึ่งแรก รวมทั้งอีกหนในช่วงต้นครึ่งหลัง

เอ็มเร่ ชาน 6/10

     มีผิดพลาดบ้างในการจ่ายบอลช่วงต้นเกม แถมเล่นบอลมากจังหวะเกินไป ก่อนจะเริ่มดีขึ้นในการต่อกรกับแข้ง พาเลซ ในครึ่งแรก จนมาโดนใบเหลืองไป 1 ใบ

มาร์ติน สเคอร์เทล 6/10

     มีส่วนเกี่ยวข้องจนทำให้ทีมเสียประตูแรกส่ง พาเลซ ขึ้นนำ ตลอดทั้งเกมมีปัญหากับการรับมือความคล่องแคล่วของ เกย์ล จนหัวพี่ปลาคาร์ฟหมุนติ้วๆ ไปเลย

มามาดู ซาโก้ 6/10

     พยายามลำเลียงบอลให้แผงมิดฟิลด์ และต้องสู่สุดตัวกับความจี๊ดของ โบลาซี่ วันนี้ทำให้เห็นถึงความพยายามสู้ทุกจังหวะโดยเฉพาะในเกมครึ่งหลัง

ลาซาร์ มาร์โควิช 6/10

     มีพื้นที่ให้เล่นเพียบในกราบขวาของสนาม แต่ก็ไม่ได้ทำอะไรเป็นชิ้นเป็นอันเลย จนทำให้ต้องถูกเปลี่ยนตัวออกในช่วงพักครึ่งเวลา

โจ อัลเลน 8/10

     ครึ่งแรกได้บอลแทบทุกจังหวะมากกว่าใครๆ ในสนาม ส่งอิทธิพลกับเกมอย่างมาก โดดเด่นทั้งเกมสร้างสรรค์เกมรุก และครองบอลได้มากให้กับแดนกลางของทีม เอาไปเลยแมนออฟเดอะแมตช์เกมนี้

จอร์แดน เฮนเดอร์สัน 7/10

     วันนี้มาในบทบาทของตัวทำลายเกมชัดเจน เข้าบอลหนักและรุนแรง จนมาโดนใบเหลือง 1 ใบ จากนั้นมีส่วนในลูกยิงตีเสมอ 1-1 ของ แดเนี่ยล สเตอร์ริดจ์ จากการโยนบอลที่เหมาะเหม็ง ขยันทั้งเกมตลอด 90 นาทีจริงๆ

อัลแบร์โต้ โมเรโน่ 6/10

     เงียบฉี่ทั้งเกมไม่มีส่วนร่วมเท่าไรกับทีม ไม่ว่าจะเล่นรับหรือรุก ผลงานเดียววันนี้คือ การออกมาเต้นสเต็ปแดนซ์ให้เดอะค็อปได้เฮฮากันเท่านั้นเอง

อดัม ลัลลาน่า 7/10

     ได้มีโอกาสง้างสับไกทดสอบความเหนียวของ สเปโรนี่ ในครึ่งแรก ท้ายที่สุดก็มาสวมบทฮีโร่ด้วยการซัดประตูชัย 2-1 วันนี้เขาคือแมตช์วินเนอร์ให้ทีมตัวจริง

ฟิลิปเป้ คูตินโญ่ 6/10

     ไม่ได้มีอิทธิพลใดๆ กับเกมให้ทีมอย่างที่ใครๆ คาดหวังไว้ ก่อนจะถูกเปลี่ยนแทนที่โดย ลอฟเรน ในช่วงท้ายเกม

แดเนี่ยล สเตอร์ริดจ์ 6/10

     ยังคงต้องพยายามกับสู่เกมของตัวเองอีกสักระยะ แต่ก็ยังพยายามทำเพื่อทีมในการหาจังหวะยิงประตู ก่อนจะมาสบโอกาสแบบจะแจ้งในครึ่งหลัง พาทีมตีเสมอ 1-1 ก่อนจะดูอ่อนล้าไปเรื่อยๆ ตามเวลาในสนาม

สำรอง

มาริโอ บาโลเตลลี่ (แทน มาร์โควิช นาที 46) 7/10

     ลงมาโลดแล่นในสนามช่วงครึ่งหลัง พร้อมกับสร้างความตื่นตะลึงในสไตล์การเล่นที่ไม่เห็นแก่ตัว แตกต่างไปจากที่เขาเคยเป็น ประตูชัยของ ลัลลาน่า ก็เริ่มต้นจากฟรีคิกของ บาโลเตลลี่ นั่นเอง

ริคกี้ แลมเบิร์ต (แทน สเตอร์ริดจ์ นาที 78) 6/10

     ถูกส่งมาพักบอลในแดนหน้า และก็มีสามารถทำได้ตามแท็กติก 2-3 ครั้งตามเวลาที่ได้ลงสนาม

เดยัน ลอฟเรน (แทน คูตินโญ่ นาที 79) 6/10

     โดนจับลงมาแพ็กเกมรับให้แน่นหนา เพื่อประคองสกอร์ 2-1 ให้แน่นอน การันตีชัยชนะในการผ่านเข้ารอบต่อไป

ADS