รวม 11 ซุปตาร์ที่ย้ายมาล้มเหลวกับ ลิเวอร์พูล

     ในประวัติศาสตร์ที่ผ่านมา มีอดีตนักเตะแข้งหงส์แดงหลายต่อหลายคนที่ย้ายเข้ามาร่วมทีมด้วยความคาดหวังสูงลิบจากแฟนบอล แต่พอมาอยู่กับสโมสรแล้ว กลับไม่ประสบความสำเร็จเท่าที่ควรเท่าไรในถิ่น แอนฟิลด์ จะมีใครบ้างในทีมที่ถูกเลือกมา เราไปดูกันได้เลย

คริส เคิร์กแลนด์

     เมื่อสิงหาคมปี 2001 เชราร์ อุลลิเยร์ ได้เซ็นสัญญาคว้าตัว เคิร์กแลนด์ มาด้วยราคาที่เป็นสถิติของผู้รักษาประตูที่ 6 ล้านปอนด์ ถือว่าแพงที่สุดของโกล์อังกฤษ แถมมาพร้อมกับ เจอร์ซีย์ ดูเด็ค ที่จับจองตำแหน่งมือ 1 ตอนนั้นใครๆ พากันเชื่อว่า เคิร์กแลนด์ ซื้อมาเพื่ออนาคตระยะยาว

     แต่เอาเข้าจริง เขามีโอกาสลงเฝ้าเสาในเกมลีกเพียงแค่ 25 นัดเท่านั้น ก่อนจะแยกทางไปอยู่กับ วีแกน ในปี 2006 และก็ไปบาดเจ็บต่อกับที่นั่นถึง 5 ปี

มาร์คุส บับเบิ้ล

     ทำเอาแฟนๆ ตื่นเต้นกันสุดฤทธิ์ในปี 2000 เมื่อรู้ข่าวว่า ลิเวอร์พูล คว้าตัวปราการหลังทีมชาติเยอรมันมาได้ ทั้งๆ ที่ตอนนั้นเขาได้รับความสนใจจากทีมดังนับไม่ถ้วน อาทิเช่น แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด

     บับเบิ้ล เริ่มต้นได้สวย และเป็นกำลังสำคัญของทีมชุด 3 แชมป์ปี 2000/01 แถมยังยิงประตูได้พอสมควรทั้งที่เล่นแบ็กขวา โชคร้ายของเขาที่ต้องประสบโรคกล้ามเนื้ออ่อนแรง ทำให้ต้องรักษาตัวอยู่ถึง 1 ปี และเมื่อหายดีก็ยังกลับมาแย่งตำแหน่วตัวจริงไม่ได้ ผลงานทั้งหมดคือการเล่น 42 นัด และยิงได้ 3 ประตู ก่อนอำลาทีมในเดือนกรกฎาคม 2004 แบบไม่มีค่าตัว

คริสเตียน ซีเก้

     นี่ก็อีกคนที่มาจากทีมชาติเยอรมัน ประวัติดูดีมากก่อนย้ายมา ลิเวอร์พูล เพราะมีประสบการณ์กับทีมใหญ่อย่าง บาเยิร์น มิวนิค และ เอซี มิลาน ตอนนั้นหงส์แดงไปดึงเขามาจาก มิดเดิลสโบรช์ ด้วยราคา 5 ล้านปอนด์

     เส้นทางลูกหนังของ ซีเก้ ใน แอนฟิลด์ ไม่ค่อยมีอะไรให้พูดถึง เพราะบาดเจ็บได้แทบทุกวันทุกเวลา จึงมีโอกาสรับใช้ทีมแค่ 16 เกม และยังยิงได้อีก 1 ลูก เมื่อเป็นเช่นนี้ เขาเลยต้องอพยพไปอยู่กับ ท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์ส ในเดือนกรกฎาคม 2001 ด้วยราคา 4 ล้านปอนด์

ฟิล บาบบ์

     ลิเวอร์พูล ฉุด บาบบ์ มาร่วมทีมในตอนนั้นที่มูลค่า 3.6 ล้านปอนด์ ในปี 1994 ซึ่งปีนั้นเขาทำผลงานได้ฮอตมากในฟุตบอลโลกให้กับทีมชาติไอร์แลนด์ เขาเป็นที่จดจำในฐานะ 1 ในก๊วน สไปซ์ บอยส์ อันเลื่องลือกของแฟนบอลยุคนั้น ผลงานที่เป็นที่จดจำหนึ่งเดียวคือการถวายชีพเคลียร์บอลจากเส้น ในเกมที่พบ เชลซี จนตัวเองไปอัดกับเสาจนสลบเหมือดแค่นั้นเอง

นีล รัดด็อก

     รัดด็อก มาแจมถิ่นหงส์แดงด้วยค่าตัวแค่ 2.5 ล้านปอนด์ ในปี 1993 และได้โอกาสเล่นเกมลีก 115 นัด ซัด 1 ประตู ก่อนหน้าที่จะมาร่วมทีม เขากำลังฮอตมากในเล่นให้ สเปอร์ส ถือว่าเป็นดาวรุ่งพุ่งแรงใน ค.ศ. นั้นอย่างมาก

     ด้วยนิสัยที่ควบคุมอารมณ์ตัวเองไม่ค่อยได้ ทำให้ชื่อเสียงเขามีแต่เรื่องทะเลาะกับคนอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็น เอริค ก็องโตน่า หรือแม้แต่ ร็อบบี้ ฟาวเลอร์ เพื่อนร่วมทีมด้วยกันยังไม่เว้น ที่เด็ดกว่านั้นคือเขาเคยทำวีรกรรมอัดคนอื่นๆ แบบบ้าบอ ไม่ว่า แอนดี้ โคล ที่โดนสอยขาหักในเกมสำรอง และ ปีเตอร์ เบียร์ดส์ลี่ย์ ที่คางแตกในเกมฉลองรำลึก ท้ายที่สุด เขามีปัญหาน้ำหนักตัว สาเหตุมาจากการชอบดื่มเหล้า เรียกว่าครบเครื่องของความเป็นแบดบอยตัวจริง

พอล อินซ์

     อินซ์ ผู้ชอบให้คนอื่นเรียกตัวเองว่า "ลูกเพ่" ย้ายมาจาก อินเตอร์ มิลาน ในปี 1997 ด้วยราคาที่แพงใช้ได้ในยุคนั้นที่ 4.2 ล้านปอนด์ ซึ่งทำท่าจะเป็นการซื้อขายที่ยอดเยี่ยมครั้งหนึ่งของ ลิเวอร์พูล ทั้งๆ ครั้งหนึงเขาคือจอมทัพของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่พาทีมประสบความสำเร็จอย่างมาก แต่ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ก็เลือกขายเขาทิ้งด้วยเหตุผลที่ว่า ปีศาจแดง คว้าดับเบิ้ลแชมป์ได้โดยไม่จำเป็นต้องมี อินซ์ อีกต่อไป

     นับตั้งแต่นั้นชีวิตเขาก็ตกต่ำลง แถมการอยู่ที่ ลิเวอร์พูล ก็ไม่อาจคว้าแชมป์อะไรได้เลยตลอด 2 ปี และพาทีมได้แค่ที่ 7 ในซีซั่นสุดท้าย ก่อนเลือกย้ายไป มิดเดิลสโบรช์ ในราคาขี้ประติ๋ว 1 ล้านปอนด์ เพราะ อุลลิเยร์ ก็ไม่ได้ชอบฝีเท้าเขาสักเท่าไรด้วย

อัลแบร์โต้ อาควิลานี่

     อดีตดาวรุ่งทีมชาติอิตาลีย้ายมาจาก โรม่า ด้วยสนนราคามหาศาล 17.1 ล้านปอนด์ ในปี 2009 ซึ่ง ราฟาเอล เบนิเตซ คาดหวังให้เป็นตัวแทนของ ชาบี อลอนโซ่ ที่ย้ายออกไป และเมื่อมาถึงทีมวันแรก เขาก็สร้างผลงานทันทีด้วยการบาดเจ็บมันเสียเลย จนยันเดือนพฤศจิกายนถึงได้ประเดิมเกมนัดแรก แต่ทุกครั้งที่ได้โอกาสก็ไม่เคยสร้างความประทับใจใดๆ ได้ แถมตำแหน่งกลางรุกก็ต้องมาแย่งกับ สตีเว่น เจอร์ราร์ด ที่กำลังพีกสุดขีดในขณะนั้น

     ต่อมา อาควิลานี่ โดยส่งไปให้ ยูเวนตุส และ เอซี มิลาน ยืมตัวไปใช้ 2 ฤดูกาล ก่อนจะโบกมือบ๊ายบายถาวรไปอยู่กับ ฟิออเรนติน่า ในปี 2012 จนถึงทุกวันนี้

แฮรรี่ คีเวลล์

     พ่อมดออสซี่ ย้ายจาก ลีดส์ ยูไนเต็ด มาอยู่ ลิเวอร์พูล เมื่อปี 2003 ชนิดว่าต้องแย่งชิงกับทีมยักษ์ทั่วยุโรปที่อยากได้ลายเซ็นของเขา เรียกว่าแฟนๆ ต่างปลื้มอกปลื้มใจที่ได้เห็นเขากับทีม แต่ตอนนั้นมีการเปิดโปงว่าสาเหตุที่ได้ตัวนั้น เป็นเพราะจ่ายเงินใต้โต๊ะให้เอเยนต์ไป 2 ล้านปอนด์นั่นเอง 

     คีเวลส์ มีส่วนทำให้ทีมคว้าแชมป์ ยูฟ่า แชมป์เปี้ยนส์ ลีก ได้ที่ อิสตันบูล ปี 2005 ซึ่งนั่นคือฤดูกาลที่ท็อปฟอร์มที่สุดของ คีเวลส์ แต่กระนั้น 2 ซีซั่นต่อมา อาการบาดเจ็บเรื้อรังก็มารุมเร้าต่อเนื่อง แม้ว่า เบนิเตซ จะเห็นเขาเป็นลูกรักคนหนึ่ง แต่ก็ต้องลาทีมไปอยู่ดีในปี 2008 กับ กาลาตาซารายในที่สุด

เฟร์นานโด มอริเอนเตส

     หนึ่งในการเซ็นสัญญาที่น่าตื่นเต้นที่สุดครั้งหนึ่งของเดอะค็อป เมื่อสามารถซื้อตัว มอริเอนเตส มาได้จาก เรอัล มาดริด ในปี 2005 ด้วยราคา 6.3 ล้านปอนด์ หลังจากฤดูก่อนนั้นเล่นได้อย่างสุดยอดในการยืมตัวที่ โมนาโก และเป็นคีย์แมนที่พาทีมเข้าถึงนัดชิงชนะเลิศ ถ้วยยุโรป

     เขาได้รับการขนานนามว่าเป็นดาวยิงระดับโลก แต่สิ่งที่แฟนๆ ลิเวอร์พูล เห็นกับตา คือการยิงประตูได้แค่ 1 ลูกใส่ ชาร์ลตัน แอธเลติก ซะงั้น เขาไม่เหมาะสมกับบอลอังกฤษโดยสิ้นเชิงทั้งความเร็วและความแข็งแกร่ง ก่อนต้องเผ่นหนีไปอยู่ บาเลนเซีย ในปี 2006 ในราคาเลหลัง 3 ล้านปอนด์

ฌิบริล ซิสเซ่

     ใครๆ ก็บอกว่านี่คือของขวัญชั้นเยี่ยมของ เชราร์ อุลลิเยร์ ที่เลือกคว้า ซิสเซ่ กองหน้าฟอร์มแรงจาก โอแซร์ ด้วยเงิน 14.5 ล้านปอนด์ ยิ่งถ้าใครเคยดูในยูทูปแล้วดูคลิปรวมการทำประตูของเขา ก็ยิ่งฝันหวานไปกันใหญ่ นึกว่าได้ นิวอองรี มาล่าประตูเสียแล้ว

     แต่เรื่องมันกลับตาลปัตรเมื่อ ซิสเซ่ ต้องมาทำงานกับ เบนิเตซ ที่ไม่ได้เซ็นเขามา นับว่าเป็นเรื่องประหลาดอยู่เหมือนกันที่สโมสรซื้อนักเตะบิ๊กเนมเข้ามา ก่อนไล่ออกผู้จัดการในวันต่อมา ซิสเซ่ เปิดซิงเกมแรกก็ยิงได้เลย แต่ดวงแตกสุดๆ เมื่อต้องขาหักสะบั้นในเกมพบ แบล็กเบิร์น แถมพอหายกลับมาก็โดนจับเล่นปีกขวา แล้วจะไปยิงประตูได้อย่างไรเล่า ซึ่ง เบนิเตซ ก็ยืนยันในความคิดนี้ และสุดท้ายก็ต้องชอกช้ำหนีกลับไป มาร์กเซย ด้วยราคา 6 ล้านปอนด์ในปี 2007 ผลงานหนึ่งเดียวคือการได้ลงเป็นสำรองในนัดชิง แชมเปี้ยนส์ ลีก และยิงจุดโทษกับเขาด้วยสิ

สแตน คอลลีมอร์

     ลิเวอร์พูล เซ็นสัญญาใช้บริการ คอลลีมอร์ ที่เคยเล่นกับ น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ ในปี 1995 ซึ่งเป็นสถิติแพงที่สุดของนักเตะอังกฤษปีนั้นที่ราคา 8.5 ล้านปอนด์ พอย้ายมาก็ทำผลงานได้ดีเลยในการจับคู่กับ ฟาวเลอร์ ทั้งยิงทั้งจ่ายเป็นว่าเล่น

     อย่างไรก็ตาม คอลลีมอร์ ก็เริ่มทำตัวงอแงกับทีม มีปัญหาหนีซ้อม มาซ้อมสาย และปฎิเสธในการเล่นเกมทีมสำรอง จนกระทั่ง รอย อีแวนส์ หมดความอดทน ต้องตัดหลังปล่อยวัดขายให้ แอสตัน วิลล่า ในปี 1997 ด้วยมูลค่าที่พอถูไถที่ 7 ล้านปอนด์นั่นเอง

สำรอง

     จูเลี่ยน ดิกส์, มาร์ค ไรท์, โจ โคล, ร็อบบี้ คีน, ไนเจล คลัฟ, ดีน ซอนเดอร์ส, ไรอัน บาเบล, ยารี่ ลิตมาเน่น, บรูโน่ เชย์รู, อ็องโตนี่ เลอ ตัลเล็ก และ ฟลอร็องต์ ซินาม่า-ปงโกลล์