เจาะลึกคู่หู "SAS" เป็นอะไรมากกว่าที่คุณคิด (ฉบับประดับสมอง)

ข้อมูล ณ วันพฤหัสบดีที่ 6 มีนาคม พ.ศ. 2557

         สำหรับโปรแกรมนัดถัดไปของ ลิเวอร์พูล ก็คือการลงเล่นในศึก "แดงเดือด" ในวันที่ 16 มีนาคมนี้ ที่สนาม โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด ซึ่งถือว่างานนี้อาจจะทำให้ เดวิด มอยส์ กุนซือที่ถูกเลือก ต้องปวดหัวกุมขมับ เมื่อต้องพลิกตำราค้นหาวิธีรับมือกับคู่หูที่อันตรายที่สุดใน พ.ศ. นี้อย่าง "SAS" (ซัวเรส แอนด์ สเตอร์ริดจ์)

          อย่างไรก็ตาม คู่หูความหวังของบรรดาสาวก "เดอะ ค็อป" ก็ไม่ได้มารวมตัวกันง่าย ๆ ไม่ว่าจะเป็นช่วงต้นฤดูกาลที่ แดเนี่ยล สเตอร์ริดจ์ ต้องแบกรับหน้าที่สังหารประตูเพียงลำพัง เมื่อคู่หูของเขาอย่าง หลุยส์ ซัวเรซ ต้องโทษแบนตั้งแต่ปลายฤดูกาลก่อน ยาวมาถึงต้นฤดูกาลนี้ เป็นจำนวนอีก 5 เกมในลีก หรือแม้แต่การบาดเจ็บที่ยากจะลืมเลือนของ สเตอร์ริดจ์ ที่ทำให้เขาต้องพลาดลงสนามถึง 8 เกมในลีก และปล่อยให้ ซัวเรซ ต้องลงเล่นในแดนหน้าโดยลำพังเช่นเดียวกัน

          สำหรับเกมที่ทั้งคู่ได้แสดงพิษสงร่วมกันนั้น ซึ่งนับตั้งแต่ต้นฤดูกาล 2013/14 จนถึงปัจจุบัน พวกเขาลงสนามพร้อมกันทั้งหมด 15 นัดเท่านั้นจาก 28 นัดในลีก แต่ไม่เพียงเท่านั้น องค์ประกอบโดยรวมของทีมยังเป็นส่วนสำคัญ รวมไปถึงยอดกุนซืออย่าง เบรนแดน ร็อดเจอร์ส ที่ทำให้ ลิเวอร์พูล กลับมาเป็น "เครื่องจักรสีแดง" ได้อีกครั้ง ... ไปดูกันว่าวันนี้ผมจะเอาอะไรมาฝากเป็นเกร็ดความรู้ประดับสมองบ้างครับ ^^

ภาพแสดงสถิติรวมการทำประตูและการแอสซิสของ "SAS" ในฤดูกาลนี้

ภาพแสดงสถิติรวมโดยรวมของ "SAS" ในฤดูกาล 2013/14

กราฟแสดงสถิติการทำประตูของ "SAS" เปรียบเทียบกับสโมสรอื่น ๆ

          สังเกตว่าทั้งคู่สามารถทำประตูได้มากกว่าครึ่งของประตูทั้งหมดที่ ลิเวอร์พูล ทำได้คือ 42 ประตูจาก 73 ประตู และน้อยกว่าประตูรวมของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด อยู่แค่ 1 ลูกเท่านั้น และยังซัลโวได้มากกว่าประตูรวมของทีมที่ทำอันดับต่ำกว่าทุกทีม ยกเว้น แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ดังที่กล่าวไว้ข้างต้น

ตารางแสดงสถิติการทำประตูของ ลิเวอร์พูล ในฤดูกาล 2013/14

ภาพแสดงรายละเอียดการทำประตูของ หลุยส์ ซัวเรซ ในฤดูกาล 2013/14

ภาพแสดงรายละเอียดการทำประตูของ แดเนี่ยล สเตอร์ริดจ์ ในฤดูกาล 2013/14 

ตารางแสดงสถิติการทำประตูของ ลิเวอร์พูล โดยแบ่งเป็น ครึ่งแรก/หลัง - เหย้า/เยือน

ตารางแสดงอัตราการทำประตูของ ลิเวอร์พูล (นาทีต่อประตู)

          เห็นได้ชัดว่าทั้งคู่มีสถิติที่ดีในการทำประตูโดยเฉลี่ยเกมละ 1 ลูก (ใช้เวลา 86 นาทีกับ 88 นาทีต่อ 1 ประตู) นั่นหมายความว่า ถ้าทั้งคู่ลงสนามพร้อมกันก็มีสิทธิ์ที่ "หงส์แดง" จะยิงประตูคู่แข่งอย่างน้อย ๆ เกมละ 2 ลูก (ตามสถิติ) เรียกว่าไม่ธรรมดาจริง ๆ

ตารางแสดงสถิติการแอสซิสของ ลิเวอร์พูล ในฤดูกาล 2013/14

ภาพแสดงรายละเอียดการแอสซิสของ หลุยส์ ซัวเรซ ในฤดูกาล 2013/14

ภาพแสดงรายละเอียดการแอสซิสของ แดเนี่ยล สเตอร์ริดจ์ ในฤดูกาล 2013/14

ตารางแสดงสถิติดาวซัลโวของ ลิเวอร์พูล ในพรีเมียร์ลีก ตั้งแต่ฤดูกาล 1992/93 - 2012/13

          ตอนนี้ หลุยส์ ซัวเรซ ทำประตูไปแล้วทั้งสิ้น 24 ประตู มากกว่าสถิติที่เจ้าตัวเคยทำไว้เมื่อฤดูกาลก่อนไปแล้ว 1 ลูก เท่ากับสถิติที่ เฟร์นานโด ตอร์เรส ที่ทำไว้ 24 ประตูเมื่อฤดูกาล 2007/08 แต่ก็ยังเป็นรอง "เดอะ ก็อด" ร็อบบี้ ฟาวเลอร์ ที่ทำไว้ 25 ประตูในฤดูกาล 1994/95 และ 28 ประตูในฤดูกาล 1995/96

          เชื่อว่าสถิติต่าง ๆ ในซีซั่นนี้ของ "คิงหลุยส์" กับ "เต้ยโศก" ยังไม่หยุดเพียงเท่านี้ เพราะยังมีอีก 10 เกมที่พวกเขาทั้งคู่ต้องฝ่าฟัน เพื่อสานต่อประวัติศาสตร์ของพวกเขาทั้งคู่ และรวมไปถึงสถิติต่าง ๆ ของสโมสรที่เคยยิ่งใหญ่เป็นยักษ์หลับอย่าง ลิเวอร์พูล

          ขอขอบคุณข้อมูลดี ๆ จากเว็บไซด์ lfcstats.co.uk, soccerway.com และ liverpoolfc.com ที่เอื้อเฟื้อข้อมูลดี ๆ แบบนี้ และขอขอบคุณบรรดาสาวก "เดอะ ค็อป" ทุก ๆ ท่านที่สนับสนุนทีมที่เรารักกันตลอดมา ^^ สำหรับวันนี้ต้องขอจัวลาไปก่อน สวัสดีครับผม...!