ความเห็นหลังเกมโดยทีมงานสยามลิเวอร์พูล

      ก่อนเกมเอฟเอ คัพ รอบ 4 ที่ แอนฟิลด์ คืนนี้ ข่าวร้ายลอยมาไกลหลังรู้ว่าทีมใหญ่อย่าง เชลซี, แมนเชสเตอร์ ซิตี้ และ สเปอร์ส กลับบ้านเก่าตกรอบไปแล้ว ทำเอาใจคอไม่ค่อยดีเท่าที่ควร ว่าจะเจอชะตากรรมแบบนั้นด้วยหรือเปล่า 5555

      นัดนี้เจ้าบ้านหงส์แดง เปลี่ยนแปลง พักตัวหลักหลายคนทั้ง สตีเว่น เจอร์ราร์ด กัปตันทีม ไม่มีชื่อทั้งตัวจริงและสำรอง รวมทั้ง มาร์ติน สเคอร์เทล เช่นกัน สวนทางกับการกลับมาของ โจ อัลเลน และ เกล็น จอห์นสัน ส่วนแนวรุกใช้ ราฮีม สเตอร์ลิ่ง เป็นตัวเป้า ส่วน ฟาบิโอ บอรินี่ และ ลาซาร์ มาร์โควิช นั่งกระดิกเท้าที่ ม้านั่งสำรอง

     ส่วนอาคันตุกะอย่าง โบลตัน ใช้ทีมชุดใหญ่ที่สุด นำโดยคู่กองหน้าสุดฮอตของ พรีเมียร์ ลีก เมื่อ 10 ปีก่อนอย่าง เอมิล เฮสกี้ อดีตขวัญใจเดอะค็อป และ ไอเดอร์ กุ๊ดยอร์นเซ่น อดีตซุปตาร์ของเชลซี หวังเอาชื่อเสียงทั้งสองคนมาขู่ขวัญแนวรับของเ้รา

     เกมในครึ่งแรก ต่างฝ่ายต่างไม่เป็นชิ้นพอๆ กัน เพียงว่า ลิเวอร์พูล ดูจะมีทรงในการผ่านบอลสั้นที่มีจังหวะกว่า คอยดับเบิ้ลพาส ลำเลียงบอลขึ้นหน้าเป็นระยะ แต่โบลตัน ก็ไม่พลาดคอยตัดบอลและโต้กลับเป็นระยะ เพียงแต่ไม่กดดันอันตรายอะไร ลิเวอร์พูล มากเท่าที่ควร อาศัยแค่ปีกขวาอย่าง ฟีนี่ย์ เติมมาเปิดบอลมั่วๆ ซั่ว ไปอย่างนั้น ส่วน เฮสกี้ นี่เงียบเป็นสากเลย

      ส่วนนักเตะของเราก็ใช้การเล่นเร็วของ คูตินโญ่ ที่คอยประสานงานกับ ลัลลาน่า และ เป้าหมายที่ สเตอร์ลิ่ง ซึ่งวูบวาบใช้ได้ แต่จังหวะจบสกอร์ดันไม่มีใครหน้าประตู อันเป็นผลจากการที่ไม่มีกองหน้าธรรมชาติสักคน รูปเลยออกมาเป็น คูตินโญ่ และ ราฮีม ต้องชงเอง กินเอง และติดแนวรับทีมเยือนไปหมด แม้จะมีจังหวะส่องไกลของ เฮนเดอร์สัน และ ลัลลาน่า แต่ก็ไม่ได้รุนแรงหรือแม่นยำมากพอ เกมเลยจบ 0-0 ในครึ่งแรกแบบน่าเบื่อพอสมควร

      มาต่อในครึ่งหลัง เกมเริ่มดันสูงขึ้นสำหรับ ลิเวอร์พูล และเปลี่ยนตัวที่เล่นดีอย่าง มาร์โควิช, บอรินี และ ลูคัส ลงมา หวังครองเกมให้แน่นอนและเผด็จศึก โบลตัน ให้ได้ ซึ่งรูปเกมว่่าตามตรงก็ยังไม่ดีขึ้น อาจจะครองบอลได้มาก มแต่การผ่านบอลไม่แม่นยำในจังหวะสุดท้าย โดยมี ลัลลาน่า ที่ดูพึ่งพาได้คนเดียว พยายามปั้นเกมอย่างหนัก แต่ตัวสนับสนุนไม่มี ทั้งๆ ที่ครึ่งหลัง ทีมเยือนหมดน้ำยาจะทำอะไรเราได้แล้วด้วย

      แอดมินคิดว่า ปัจจัยอีกอย่างหนึ่งคือการไม่ยอมใช้ ริคกี้ แลมเบิร์ต ที่น่าจะสู้ได้สนุกกับ แนวรับ โบลตัน ที่ตัวสูงใหญ่อย่าง รีม และ เดอร์วิตต์ จะช่วยให้เปิดช่องให้คนอื่นๆ ได้มากกว่านี้ ดีกว่าจะดันทุรังเล่นบอลภาคพื้น ในสภาพที่ทีมเยือนใช้แผน 3-5-2 ที่แน่นหนา แถม บอรินี่ ก็ไม่เหมาะกับเกมนี้เท่าไรในเชิงแท็กติก

     อีกคนหนึ่งที่ต้องชื่นชม แมน ออฟ เดอะ แมตช์ เกมนี้ คือ อดัม บ๊อกแดน อดีตนายทวารของเราที่เฝ้าเสาให้ โบลตัน ที่วันนี้โชว์ซูเปอร์เซฟบนความไม่เฉียบขาดของ ลิเวอร์พูล ด้วย ไม่มีผิดพลาดและเซฟจังหวะสำคัญได้หมด จนพาทีมมายันเจ๊า 0-0 ได้ถึง แอนฟิลด์ ปรบมือให้เลย (ทำไมตอนอยู่กับเราไม่เห็นมันเป็นแบบนี้)

     อย่างไรก็ดี ทีมเรายังมีโอกาสในนัดหน้า ทีี่จะเล่นรีเพลย์ที่บ้านของ โบลตัน ณ สนาม รีบ็อค สเตเดี้ยม หวังว่าจะส่งชุดใหญ่เต็มสูบกว่านี้ หากยังหวังถ้วย เอฟเอ คัพ ให้ เจอร์ราร์ด ส่งท้ายแบบเท่ๆ

     และหวังอย่างยิ่งว่าคงไม่ยืดเยื้อต่อเวลา ยิงจุดโทษ นะ เบรนแดน ร็อดเจอร์ส