- สล็อตเว็บตรง
- https://rillitoracetrack.com/
- สล็อตเว็บตรง
5 เรื่องราวที่เกิดขึ้นในเกมที่บุกทุบ "สิงห์ผงาด"
5 เรื่องราวที่เกิดขึ้นในเกมที่บุกทุบ "สิงห์ผงาด"
เผลอแปปเดียวก็เข้าสู่ช่วงครึ่งหลังของฤดูกาล 2014/15 กันแล้ว ซึ่งการอยู่อันดับ 8 และมี 35 แต้ม ตามหลัง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด อันดับ 4 อยู่เพียงแค่ 5 คะแนนเท่านั้น ก็ยังมีโอกาสที่ ลิเวอร์พูล จะกลับไปติดท็อปโฟร์ได้อีกครั้ง หากสามารถรักษาผลงานไร้พ่ายต่อเนื่องไปเรื่อย ๆ
หลังจบเกมที่ ลิเวอร์พูล บุกเอาชนะ แอสตัน วิลล่า 2-0 ทำให้ทีมไม่แพ้ใครในลีกติดต่อกัน 6 เกมหลังสุด และแพ้เพียงแค่หนเดียวให้กับ "ปีศาจแดง" ตลอด 10 เกมหลังสุดอีกด้วย โดยวันนี้เราจะพาไปดู 5 เรื่องราวที่หยิบมาจากเกมเมื่อสุดสัปดาห์กัน ว่ามีอะไรน่าสนใจกันบ้าง ?
1. กัปตัน "เฮนโด้" ผงาดในยามที่ไร้เงา "พี่เจิด"
มิดฟิลด์พลังปะทุของ "หงส์แดง" อย่าง จอร์แดน เฮนเดอร์สัน ได้รับการพิสูจน์ตัวเองและพัฒนาฝีเท้าจนเป็นที่ยอมรับของทุกคน ก่อนจะกลายเป็นรองกัปตันทีมคนล่าสุดและว่าที่อนาคตผู้นำทีมคนใหม่ ซึ่งผลงานในสนามของเขาในเกมนี้ มีส่วนสำคัญที่ช่วยให้ทีมสามารถเอาชนะ แอสตัน วิลล่า ได้เลย
จากเกมแรกที่ลงสนามในฤดูกาลนี้จนถึงเกมล่าสุด "เฮนโด้" มีสถิติการแอสซิสให้เพื่อนทำประตูได้มากที่สุดในทีมถึง 7 ครั้ง มากกว่าเพลย์เมกเกอร์ธรรมชาติอย่าง อดัม ลัลลานา กับ ฟิลิปเป้ คูตินโญ่ ที่จ่ายให้เพื่อนใส่สกอร์เพียง 3 ครั้งเท่านั้น นอกจากนี้ เฮนเดอร์สัน ยังมีสถิติการจ่ายบอลสำเร็จถึง 84% มาจากการเชื่อมบอลและต่อบอลจากหลังไปหน้า ดูเหมือนว่าหน้าที่ของ เจอร์ราร์ด คงไม่ต้องมองหาใครอีกแล้วในอนาคต แม้ว่า "เฮนโด้" อาจจะอ่อนในเรื่องการยิงไกลจากแถวสองก็ตาม แต่ที่เหลือก็แทบจะไม่ต่างอะไรมากกับ "สตีวี่จี" เท่าไหร่นักในมุมมองของนักวิจารณ์
2. การส่งสำรองลงมาเปลี่ยนเกมของ ร็อดเจอร์ส
แม้ว่า ลิเวอร์พูล จะสามารถออกนำ แอสตัน วิลล่า เร็ว ตั้งแต่ในนาที่ 24 แต่หลังจากนั้นก็เป็นเจ้าบ้านที่โหมกระหน่ำจนเกือบจะเสียประตูตีเสมออยู่หลายหน ซึ่งก็สามารถรอดตัวมาได้และปรับแก้เกมมาลุยต่อในครึ่งหลังได้อย่างสนุกสูสี แต่หลังจากที่ส่ง ริคกี้ แลมเบิร์ต ลงสนามมาแทน ฟาบิโอ บอรินี่ ผู้ที่ยิงประตูขึ้นนำให้กับทีมออก ถือเป็นการตัดสินใจที่คุ้มค่าพอสมควร เพราะนั่นทำให้ทีมลดความกดดันลงเยอะ หลังจากที่ แลมเบิร์ต ซัดประตูที่สองให้กับทีมได้สำเร็จ นอกจากนี้การเปลี่ยนตัวนักเตะตามตำแหน่งโดยไม่ส่งผลกระทบต่อแผนการเล่นนั้นยังเป็นผลดีอย่างเห็นได้ชัด
3. บอรินี่ และ แลมเบิร์ต ตัวเลือกที่ดีและสมควรได้รับรางวัล
คงจะปฏิเสธไม่ได้ว่าสองเกมที่ผ่านมา ผลงานของ บอรินี่ และ แลมเบิร์ต ต้องตาต้องใจแฟน ๆ มากจนอยากให้ลงสนามเป็นตัวจริงติดต่อไปหลาย ๆ นัดอีกด้วย ทำให้ มาริโอ บาโลเตลลี่ ศูนย์หน้าที่คาดว่าจะเป็นความหวังใหม่ของทีมกลายเป็นตัวเลือกลำดับท้าย ๆ ของ ร็อดเจอร์ส ไปเลย อย่างที่ทราบกันว่า บอรินี่ มีส่วนช่วยทำให้ทีมยิงประตูได้จากสองเกมล่าสุดและสมควรได้รับคำชมไม่แพ้กับ จอร์แดน เฮนเดอร์สัน และ ริคกี้ แลมเบิร์ต ที่ยิงประตูยำชัยในเกมที่ผ่านมา
หวังว่า ร็อดเจอร์ส จะตาสว่างกับการจัดตัว 11 ผู้เล่นตัวจริงซะทีว่าการใช้ศูนย์หน้าธรรมชาติเป็นประโยชน์กับทีมมากแค่ไหน นอกจากการจบสกอร์และหาพื้นที่ในการวิ่งที่เหนือกว่าตำแหน่งแล้ว อีกหนึ่งสิ่งที่กองหน้าธรรมชาติยังทำได้ดีกว่าคนอื่น ๆ ก็คือการสร้างปัญหาและปั่นป่วนแนวรับของคู่แข่ง อย่างเช่น หลุยส์ ซัวเรส, เซร์กิโอ อเกวโร่ หรือ ดีเอโก้ คอสต้า เป็นต้น ถ้าเกมต่อไปไม่มีชื่อของ บอรินี่ หรือ แลมเบิร์ต ลงสนาม เราต้องมาคุยกันหน่อยแล้วล่ะ ... "บีร็อด"
4. ราฮีม สเตอร์ลิง สนิมจับหลังจากการพักผ่อน
ไม่แปลกใจเลยว่าทำไม สเตอร์ลิง จึงถูกเปลี่ยนตัวออกในช่วงท้ายเกม ไม่ใช่เรื่องของแทคติกแน่นอน แต่เป็นเพราะความฟิต, ฟอร์มการเล่น และความผิดพลาดหลายครั้งที่เกิดขึ้น ทำให้ ร็อดเจอร์ส ตัดสินใจส่ง จอร์ดอน ไอบ์ ลงสนามมาแทนในตำแหน่งเดียวกัน ดูเหมือนการพักร้อนของ สเตอร์ลิง จะเป็นผลเสียมากกว่าเก็บตัวอยู่กับทีมเสียอีก แต่อย่างไรก็ดีการพักผ่อนน่าจะทำให้นักเตะได้ปล่อยใจให้รู้สึกไม่กดดันกับสถานการณ์ของทีมก็เป็นได้ แต่ยังไงเสียก็เร็วเกินไปที่จะส่งเขาลงสนามเป็นตัวจริง นอกจากจะฟิตไม่ถึงขั้นแล้วยังอาจส่งผลต่ออาการบาดเจ็บที่เข้ามารบกวนอีกด้วย
5. แนวรับที่แข็งแกร่งและการเก็บคลีนชีต
ไม่อยากเชื่อเลยว่าแผนการเล่น 3-4-2-1 หรือ 3-4-3 จะสามารถแก้ปัญหาเกมรับให้ดีขึ้นได้ ซึ่งแน่นอนว่าแฟน ๆ "เดอะ ค็อป" มากกว่าครึ่งโลกก็คงจะงงเหมือนกัน เพราะอยู่ดี ๆ ก็ปรับมาใช้เซ็นเตอร์แบ็ค 3 คน และคงต้องย้อนไปในเกมแรกที่ใช้แผนนี้ ด้วยการพ่ายยับให้กับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 0-3 ซึ่งนั่นเป็นเกมสุดท้ายที่ ลิเวอร์พูล แพ้คู่แข่งอีกด้วย และกว่าจะได้ส่วนผสมที่ลงตัว ต้องใช้เวลากว่า 3-4 เกม ลงผิดลองถูกจนกระทั่งได้ 3 ตัวจริงที่พร้อมปักหลักเฝ้าหลังบ้านไปจนจบฤดูกาลนี้ และการรักษาคลีนชีตคงไม่ใช่เรื่องยากสำหรับ "หงส์แดง" อีกต่อไป
โดยเกมนี้สามแผงหลังถูกทดสอบหนักพอสมควร จากตัวรุกของ แอสตัน วิลล่า ที่พยายามจะเจาะเข้าทำประตู อีกทั้งยังพยายามบอมบ์เข้าใส่จุดอ่อนของ ลิเวอร์พูล อีกด้วย เรียกว่าผ่านครึ่งแรกไปแบบเฉียดฉิวเลยทีเดียว งานนี้คงต้องขอบคุณสองคู่กลางอย่าง จอร์แดน เฮนเดอร์สัน และ ลูคัส เลว่า ที่ช่วยกรองเกมรุกและตัดเกมของคู่แข่งก่อนที่งานหนักจะมาถึงกองหลัง ซึ่งก็สามารถจัดการก็ได้ดี
โปรแกรมนัดถัดไปของ ลิเวอร์พูล คือการเผชิญหน้ากับจ่าฝูงอย่าง เชลซี ในศึก ลีก คัพ ที่จะลงฝาดแข้งกันในกลางสัปดาห์นี้ที่สนาม แอนฟิลด์ ก่อนจะกลับไปเล่นนัดที่สองอีกครั้งในช่วงกลางสัปดาห์หน้า อย่าลืมติดตามข่าวสารดี ๆ และเรื่องราวจากสกู๊ปพิเศษแบบนี้ไปตลอดนะครับ แล้วพบกันใหม่ครับผม... ^^
ADS
- สล็อตเว็บตรง
- https://slope.org/
- สล็อตเว็บตรง
- สล็อตเว็บตรง
- https://track21houston.com/
- สล็อตเว็บตรง