หน้าแรก / ข่าวลิเวอร์พูล / เจาะลึกสุดใจกัปตันเจิด: เหตุผลในการอำลาลิเวอร์พูล (ฉบับเต็ม)

เจาะลึกสุดใจกัปตันเจิด: เหตุผลในการอำลาลิเวอร์พูล (ฉบับเต็ม)

เจาะลึกสุดใจกัปตันเจิด: เหตุผลในการอำลาลิเวอร์พูล (ฉบับเต็ม)

     สตีเว่น เจอร์ราร์ด กัปตันขวัญใจของพวกเราชาว ลิเวอร์พูล หลังจากตัดสินใจแบบฟ้าผ่า ประกาศแผนการที่จะลาถิ่น แอนฟิลด์ ไป หลังอยู่โยงมานานร่วม 26 ปี อย่างภักดี และสัญญาจะหมดลงหลังจบฤดูกาลนี้ เจอร์ราร์ด ยืนยันแน่แล้วว่าจะไปเล่นที่สหรัฐอเมริกาใน เมเจอร์ ลีก โดยคาดว่าเป็น แอลเอ กาแล็กซี่ ที่เคยมี เดวิด เบ็คแฮม และ ร็อบบี้ คีน ไปเปิดซิงลงเล่นมาแล้ว

     วันนี้เราจะมาเปิดใจที่มาและที่ไปของการตัดสินใจในครั้งนี้แบบละเอียดยิบ ว่าเพราะอะไร และใคร ทำไม เจอร์ราร์ด จึงเลือกจากทีมไปอย่างสะเทือนใจเหล่าเดอะค็อป เขาไม่รักทีมแล้วรึเปล่า หรือหมดไฟกับผลงานฤดูกาลนี้ เราไปติดตามกันเลยครับ

----------------------------------------------------------------------------------------------------------------

 

เหตุผลในการตัดสินใจ?

     "มันเป็นช่วงเวลาที่สับสนไปหมดกับครอบครัวผมรวมทั้งตัวเองด้วย นับตั้งแต่ผมประกาศเรื่องนี้ และผมคิดว่าแฟนๆ ก็คงรู้สึกเช่นกัน มันดูลำบากใจแต่ผมจำเป็นต้องบอกให้เร็วที่สุดเพราะมันสำคัญกับการลงเล่น เรายังมีโอกาสประสบความสำเร็จได้อีกในฤดูกาลนี้"

     "ราวๆ 1 สัปดาห์ที่ผมใช้เวลาในการตัดสินใจ ผมคิดและวิเคราะห์อย่างมากในเรื่องนี้ ผมต้องการให้ เบรนแดน รู้เรื่องนี้คนแรก ผมคิดถึงทีมอยู่ตลอดและคิดว่าตอนไหนคือช่วงที่ดีที่สุดที่จะพูดมันออกไป"

     "หลังจากผมบอก ร็อดเจอร์ส ไป เราก็มานั่งคุยกันอย่างจริงจัง กระทั่งหลังเกมกับ เลสเตอร์ จบลงเมื่อวันปีใหม่ ผมคิดว่าผมไม่ต้องการจะเสียเวลาอีกต่อไป"

     "ผมรู้ดีว่าพอเข้าเดือนมกราคม ผมจะมีอิสระในการพูดคุยกับทีมต่างแดนที่ต่างติดต่อเข้ามา ผู้จัดการถกเครียดกับผมในหลายๆ คำถามเกี่ยวกับอนาคตของผมในแต่ละวัน และผมเห็นว่ามันไม่แฟร์เท่าไร"

     เขาเผยว่าการสนทนากับ บีร็อด เมื่อเดือนที่แล้วคือปมหลักที่ทำให้เขาต้องตัดใจไปเล่นต่างแดนในทันที แม้ว่าปลายพฤศจิกายน สโมสรจะเสนอสัญญา 1 ปีให้ก็ตาม แต่ ร็อดเจอร์ส แจ้งให้เขาทราบว่า เจอร์ราร์ด จะไม่ใช่ตัวเลือกอัตโนมัติอีกต่อไป การต้องตกในสภาพตัวสำรองไม่ใช่เรื่องที่เขารับได้ หลังเป็นตัวหลักมาเกือบ 2 ทศวรรษ

     "ด้วยความสัตย์จริง การคุยกับ เบรนแดน มาเร็วกว่าที่ผมคิดไว้เยอะเมื่อเดือนที่แล้ว เราคิดกันหลายเรื่องๆ ร่วม 2 สัปดาห์ มันเป็นเรื่องที่หนักแต่ผมเข้าใจได้ เรายังรักกันดี ทุกคนรู้ดีว่าผมยกย่อง เบรนแดน มาก ความสัมพันธ์เรายังปึ้กเหมือนเดิม"

     "ไม่มีอะไรขัดแย้งกันในการพูดคุย เขายอดเยี่ยมสำหรับผมเสมอ สิ่งที่เสียดายเรื่องเดียวคือการที่ผมไม่ได้ร่วมงานกับเขาตั้งแต่ตอนหนุ่มๆ ผมชื่นชอบเขามากในฐานะผู้จัดการทีม ซึ่งคนอื่นๆ ก็คิดเช่นกัน"

 

ผมไม่ต้องการเป็นตัวสำรอง?

     "มุมมองของมืออาชีพ ทุกคนรู้ดีว่าผมชอบอะไรและต้องการอะไร ตั้งแต่ผมอายุ 16-17 ปี ตอนนี้ผมยังทำงานตั้งแต่เช้าวันจันทร์เพื่อเตรียมตัวเล่น 90 นาทีในแต่ละสุดสัปดาห์"

     "มันอาจดูยุ่งยาก เพราะต้องทำงานหนักเสมอทั้งอาทิตย์ เพื่อทำให้แน่ใจว่าฟอร์มของผมจะเต็มที่ในเกมนั้นๆ ยามที่ต้องลงเล่นจริงๆ บางทีคุณไม่มีทางรู้หรอกว่าจะเริ่มต้นได้ดีหรือไม่ มันอาจต่างไปจากที่คิด"

     "ผมไม่ต้องการเป็นผู้เล่นอะไหล่เสริม ถ้าผมต้องพลาดเกมล่าสุด แล้วต้องนั่งที่ซุ้มสำรองยาวๆ ถึงฤดูกาลหน้า ผมรู้ว่ามันคงเป็นช่วงเวลาที่เลวร้ายยิ่งกว่าอะไรเสียอีก"

     เจอร์ราร์ด ยอมรับว่าถ้าข้อเสนอฉบับใหม่จาก ลิเวอร์พูล มาให้เซ็นตั้งแต่ช่วงหน้าร้อน ป่านนี้ก็คงเซ็นอย่างไม่ลังเล แม้จะไม่รู้ชะตากรรมในบทบาทของตัวเองก็ตามที

     "ใช่แล้ว ถ้าสัญญามาอยู่ต่อหน้าผมช่วงปรี-ซีซั่น ผมจะเซ็นแน่นอน ผมเพิ่งเลิกรับใช้ทีมชาติอังกฤษไปก็เพื่อจะทุ่มเททุกอย่างให้ ลิเวอร์พูล ผมไม่ต้องการให้ฟอร์มแย่ลงไป"

     "สถิติการบาดเจ็บของผมดีเยี่ยมมากใน 2 ปีกว่าๆ ที่ผ่านมา และผมก็มีฤดูกาลที่แล้วที่แสนยอดเยี่ยมเป็นการส่วนตัวอีกด้วย ช่วงเวลาตอนหน้าร้อนจนถึงสิ้นเดือนพฤศจิกายน ทำให้ผมมีเวลาคิดทบทวน"

     "ไม่มีอะไรต้องตำหนิและไม่ได้โกรธใครทั้งสิ้น ยังมีผู้คนอื่นๆ ในทีมและสโมสรที่มีเรื่องอื่นๆ ให้ต้องกังวลอีกเยอะ ลิเวอร์พูล คือสิ่งที่น่าเหลือเชื่อสำหรับผม ตั้งแต่ตอนอายุ 8 ขวบ สโมสรช่วยผมเติมเต็มความฝันอย่างไม่รู้จบ"

     "ความทรงจำและประสบการณ์ที่ผมได้รับมาร่วม 26 ปี ผมจะไม่ยอมแลกกับอะไรในโลกนี้เลย ผมเป็นเด็กที่โชคดีมาก และผมภูมิใจมากด้วยที่ได้การตอบแทนจากการเสียสละและอุทิศตัว รวมทั้งความภักดี"

     "ผมสนุกกับความสัมพันธ์ที่เหนียวแน่นที่มีต่อทีม และผมเห็นว่ามันจะไม่มีวันสิ้นสุด ผมหวังจะได้กลับมารับใช้ทีมอีกครั้งในวันหน้า"

     เขายังยืนยันว่าผลงานของ ลิเวอร์พูล ที่ตกต่ำในครึ่งฤดูกาลนี้ไม่ได้มีส่วนในการตัดสินใจแต่อย่างใด

     "มันไม่ได้เกี่ยวอะไรกับผลการแข่งขันของทีมในตอนนี้เลย นั่นไม่ใช่นิสัยคนอย่างผม ถ้าสิ่งต่างๆ มันไปไม่สวย ผมก็ยังคงตั้งใจอยู่ที่นี่และช่วยทีมให้เข้าที่เข้าทาง ผมคิดว่าผมทำมาให้เห็นหลายปีแล้วนะ"

     "ความจริงก็คือการที่ต้องตกสภาพเป็นแค่ตัวสำรอง มันไม่ทำให้ผมตื่นเต้นหรือผลักดันผมได้เลย ผู้คนสามารถแสดงความเห็นได้ตามใจชอบ แต่มันยากเกินไปสำหรับผมจริงๆ ที่เคยชินอยู่กับการเป็นตัวจริงในทุกเกม"

     "ผมไม่ต้องการเป็นแค่ผู้เล่นเสริม ที่ได้แค่นั่งรอโอกาสอยู่ที่ม้านั่งสำรอง ความกระชุ่มกระชวยของผมอยู่ที่การได้ลงสนามและช่วยทีม ยามที่คุณไม่รู้ว่าอะไรจะเกิดขึ้นเมื่อต้องอยู่ที่ม้านั่งสำรอง มันช่างแตกต่างอย่างแท้จริง"

มันไม่ง่ายในการเป็นตัวเองตลอดเวลา?

     นอกเหนือจากหน้าที่ในสนาม นอกเหนือจากการทำได้แค่เลี้ยงปลาทองอยู่ในบ้าน เขาก็อยากใช้เวลากับครอบครัวอย่างอิสระเต็มที่ในต่างแดนดูบ้าง

     "ไม่ใช่แค่เพียงเรื่องในสนามแต่เรื่องอื่นๆ ก็ต้องดีด้วย ผมคิดว่ามันดีที่จะย้ายไปจากเมืองนี้สักระยะ ลิเวอร์พูล คือบ้านของผม และผมรักเมืองนี้ แต่มันไม่ง่ายสำหรับการใช้ชีวิตของผมเท่าไร"

     "อย่าเข้าใจผมผิดนะ ผมไม่มีทางแลกสิ่งนี้กับอะไรในโลกแน่ เพราะที่นี่เติมเต็มความฝันให้ผม ผมไม่มีอะไรต้องบ่นพร่ำมากมายเพราะสิ่งต่างๆ มันผ่านไปแล้ว"

     "การเป็นผู้เล่นของ ลิเวอร์พูล และอาศัยที่เมืองนี้ บางทีก็มีเรื่องแย่ๆ อยู่บ้าง มันยากในการออกจากบ้านเพื่อจะไปร้านกาแฟ ไปทานข้าว พาลูกๆ ไปสวนสาธารณะหรือไปโรงเรียน สิ่งเล็กน้อยเหล่านี้ บางทีมันก็หนักใจเหมือนกัน"

     "แถมบางทีก็ต้องเจอข่าวลือต่างๆ นานาของตัวเองอีก มันคงดีถ้าได้ลองอะไรที่ต่างไป ประเทศใหม่ๆ วัฒนธรรมใหม่ๆ พาลูกๆ ไปรับประสบการณ์ที่ใหม่ออกไป มันคงเยี่ยมถ้าสามารถออกไปเดินเล่นนอกบ้านโดยไม่มีใครจำหน้าได้"

     "การรับมือกับความกดดันและการรับผิดชอบเป็นเรื่องที่ผมชอบเสมอ มันเป็นเกียรติสูงสุดในการได้เป็นกัปตันให้ทีมมายาวนาน และมันจะเป็นเช่นนั้นถึงวันสุดท้าย ผมจะเป็นแฟนของ ลิเวอร์พูล จนวันตาย ผมจะอยู่กับฝันของผมแบบนี้ตลอดไป"

 

 

 

ADS