- สล็อตเว็บตรง
- https://injuredathletes.org/
- สล็อตเว็บตรง
รวมเหตุการณ์บันทึกความทรงจำของ "หงส์แดง" ตลอดปี 2014
มกราคม
ลิเวอร์พูล ประเดิมศักราช 2014 จากการพ่ายแพ้ 2 เกมติดในรอบ 3 วันในช่วงปลายเดือนธันวาคม 2013 ด้วยน้ำมือของ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ และ เชลซี จนร่วงหล่นจากจ่าฝูงไปอยู่อันดับ 5 รับปีใหม่
ชัยชนะ 2-0 เหนือ ฮัลล์ ซิตี้ ที่แอนฟิลด์ ตามติดด้วยผลงานระดับมาสเตอร์ของคู่หู SAS หลุยส์ ซัวเรซ และ แดเนี่ยล สเตอร์ริดจ์ ที่ช่วยกันถล่ม สโต๊ค ซิตี้ 5-2 ถึง บริทานเนีย สเตเดี้ยม จากนั้นผลงานตกลงไปนิด เมื่อพลาดท่าต้องไล่ตีเสมอ แอสตัน วิลล่า 2-2 ในบ้านตัวเอง
แต่กระนั้นแก๊งค์หงส์แดงก็ยังจบเดือนนี้ ด้วยการชำแหละ เอฟเวอร์ตัน 4-0 ที่ แอนฟิลด์ ในศึก เมอร์ซีย์ไซด์ ดาร์บี้ แมตช์ อย่างสวยสดงดงาม
กุมภาพันธ์
โคโล่ ตูเร่ พี่ใหญ่ในแนวรับดันเล่นผิดพลาด พาทีมถูก เวสต์บรอมวิช อัลเบี้ยน ตามตีเสมอ 1-1 ที่ เดอะ ฮอว์ธอร์น ทำให้ ลิเวอร์พูล ต้องตามหลัง อาร์เซน่อล ถึง 8 แต้ม
แต่กระนั้นทีมก็ยังเร่งคืนได้ในนัดต่อมา ด้วยการขยี้ อาร์เซน่อล 5-1 ที่ แอนฟิลด์ ซึ่ง 20 นาทีแรก ถือเป็นเกมที่ยอดเยี่ยมของฤดูกาลนี้
จากนั้นพวกเขาบุกไปสอยชัย ฟูแล่ม 3-2 ชนิดว่าต้องขอบคุณ สตีเว่น เจอร์ราร์ด ที่ซัดจุดโทษเข้าไป ตามด้วยเกมที่บดชนะ สวอนซี ซิตี้ 4-3 ที่ แอนฟิลด์ ทำให้ทีมเก็บได้ 10 จาก 12 คะแนนในเดือนกุมภาพันธ์
มีนาคม
ผลงานในเดือนมีนาคมนี้ ทำเอาเดอะค็อปต่างมั่นใจอย่างยิ่งว่านี่จะเป็นปีทองของ ลิเวอร์พูล ลูกทีมของ เบรนแดน ร็อดเจอร์ส ผงาดประกาศศักดาด้วยการชนะ 5 นัดรวด เริ่มต้นด้วยการ ถล่ม เซาท์แฮมป์ตัน 3-0 ที่สนาม เซนต์ แมรี่ส์
จากนั้นก็มาชื่นใจกันต่อ หลังบุกไปอัด แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 3-0 ถึง โอลด์ แทรฟฟอร์ด ต่อเนื่องด้วยแฮททริคของ ซัวเรซ จากเกมยิงกันสะใจเหนือ คาร์ดิฟฟ์ ซิตี้ 6-3 ที่ คาร์ดิฟฟ์ สเตเดี้ยม ก่อนจะบดชนะแบบสบายๆ ในเกมที่เฉือน ซันเดอร์แลนด์ 2-1 ที่แอนฟิลด์
ส่งท้ายเดือนนี้ด้วยการเปิด แอนฟิลด์ พังพินาศ ท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์ส 4-0 ส่งผลให้ทีมขึ้นนำเป็นจ่าฝูงจนได้เหนือ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ และ เชลซี ได้สำเร็จ
เมษายน
2 จุดโทษของ เจอร์ราร์ด พาทีมคว้าชัยเหนือ เวสต์แฮม ยูไนเต็ด 2-1 ที่ โบลิน กราวนด์ ช่วยให้ ลิเวอร์พูล ยังมีความหวังแชมป์ลีก ต่อไป ก่อนรับมือการมาเยือนของ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่ แอนฟิลด์
เกมนี้คือช่วงบ่ายที่แสนน่าจดจำ เมื่อ ราฮีม สเตอร์ลิ่ง และ มาร์ติน สเคอร์เทล พาหงส์แดงออกนำไปก่อนถึง 2-0 ก่อน ดาบิด ซิลบา และ เกล็น จอห์นสัน ที่ทำเข้าประตูตัวเอง จะทำให้เสมอ 2-2 ก่อนที่สุดท้าย ฟิลิปป์ คูตินโญ่ จะมาซัดประตูชัยให้ทีมชนะแบบสุดมัน 3-2 พร้อมรักษาความหวังในการเป็นแชมป์ ลีก
ต่อด้วยการบุกไปฆ่า นอริช ซิตี้ 3-2 ที่ สนาม แคร์โรว์ โร้ด และปิดท้ายด้วยเกมที่ ลิเวอร์พูล ขอเพียงแค่ไม่แพ้ ในการเจอกับ เชลซี ซึ่งเหตุการณ์ที่ไม่มีใครอยากจำก็เกิดขึ้นเมื่อ สตีเว่น เจอร์ราร์ด ลื่นล้มเสียบอลให้ เดมบา บา ลากบอลไปยิง ทำให้ทีมแพ้ไป 2-0 คาบ้านต่อผู้มาเยือน และชะตากรรมที่อยู่ในมือของทีมหงส์แดงได้จากไปแล้ว
พฤษภาคม
เดือนแห่งความวิปโยค ความฝันในการเป็นเจ้า พรีเมียร์ ลีก ต้องมาสิ้นสุดในเดือนนี้ ทั้งๆ ที่พวกเขาขอเพียงแค่ชนะ 2 เกมสุดท้ายก็จะเพียงพอกับตำแหน่งแชมป์
เริ่มต้นด้วยการพบ คริสตัล พาเลซ ที่ เซลเฮิร์ส พาร์ค หงส์แดงออกนำขาดลอยถึง 3-0 แต่กลับต้องจบเกมที่สกอร์ 3-3 ค่ำคืนแห่งความโหดร้ายชนิดน้ำตาลูกผู้ชายของ ซัวเรซ ต้องไหลออกมาแบบไม่อายใคร เพราะเขารู้ดีว่าโอกาสที่จะได้แชมป์ไม่มีอีกแล้ว
เกมสุดท้ายของฤดูกาลในบ้าน ที่ชนะ นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด 2-1 ไม่เพียงพอในการเป็นแชมป์ พรีเมียร์ ลีก แต่อย่างใด ทำให้จบซีซั่นเพียงแค่อันดับ 2 อย่างสุดเสียดายที่พลาดโอกาสที่ดีที่สุดในการเป็นแชมป์ลีก ในรอบ 24 ปี ไปอย่างน่าเจ็บใจจริงๆ
มิถุนายน
เรื่องราวบ้าๆ บอๆ ของลิเวอร์พูล คราวนี้เกิดขึ้นที่ บราซิล เมื่อ ซัวเรซ ที่เล่นให้ทีมชาติอุรุกวัยในฟุตบอลโลก 2014 ดันไปสร้างวีรกรรมให้ตัวเอง ด้วยการวิ่งไปกัดใส่ จอร์โจ้ คิเอลลินี่ ของ อิตาลี จนถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักในเรื่องพฤติกรรม และแน่นอน เขาโดนแบน 4 เดือน
ขณะที่สโมสรก็ได้นักเตะใหม่คนแรกของซัมเมอร์ซึ่งเป็นอดีตเด็กปั้นหงส์อย่าง ริคกี้ แลมเบิร์ต
และ อดัม ลาลาน่า เพื่อนซี้จาก เซาท์แฮมป์ตัน ในราคา 25 ล้านปอนด์
กรกฎาคม
และแล้วข่าวลืออย่างหนาหูว่า ซัวเรซ ผู้ก่อคดีกัดคนที่บอลโลกเตรียมจะย้ายไปจาก แอนฟิลด์ ก็เป็นความจริง
ดาวยิงฟันจอบอุรุกวัยอพยพไปอยู่กับ บาร์เซโลน่า ที่ คัมป์ นู แทน ในราคา 75 ล้านปอนด์ พร้อมทิ้งปัญหารูรั่วในแดนหน้าให้ ลิเวอร์พูล ต้องปวดหัวกันต่อไป แต่สิ้นเดือนนี้ หงส์แดงก็ได้คว้าตัวกองหลังหน้าใหม่อย่าง เดยัน ลอฟเรน จากทีมนักบุญอีกแล้ว ด้วยค่าตัว 20 ล้านปอนด์
สิงหาคม
ฤดูกาลใหม่เริ่มต้นแล้วด้วยความหวังในแง่ดี ว่า ลิเวอร์พูล โฉมใหม่ที่ไร้ ซัวเรซ จะทำได้ดีกว่าเดิมแน่นอน และแล้ว SAS คู่ใหม่อย่าง สเตอร์ลิ่ง และ สเตอร์ริดจ์ โชว์ความเฉียบคมให้ทีม ยิงกันคนละลูกให้ทีมบดชนะ เซาท์แฮมป์ตัน 2-1 ในวันเปิดฤดูกาล
แต่ก็มาสะดุดเมื่อพ่ายแพ้ให้ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 3-1 กระนั้นพวกเขามาแก้ตัวด้วยผลงานที่แสนมหัศจรรย์ ที่ว่ากันว่าเป็นฟอร์มที่ดีที่สุดของฤดูกาลนี้ ด้วยการบุกไปเผาเครื่อง ท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์ส 3-0 ถึง ไวท์ ฮาร์ท เลน
พร้อมจบเดือนนี้ด้วยการเซ็นสัญญาดาวยิงจอมเกรียน มาริโอ บาโลเตลลี่ มาจาก เอซี มิลาน
กันยายน
ข่าวร้ายข่าวแรกมาเยือนทันที เมื่อ สเตอร์ริดจ์ เกิดเจ็บระหว่างซ้อมให้อังกฤษ และนั่นก็ทำให้พวกเขาประเดิมแพ้ให้ แอสตัน วิลล่า คาบ้าน 1-0 มันเสียเลย
บาโลเตลลี่ เปิดซิงลูกแรกในสีเสื้อหงส์แดงได้สำเร็จ ในเกมที่ชนะ ลูโดโกเร็ตส์ แบบหืดจับ 2-1 ใน ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก
ความย่ำแย่เริ่มปรากฎอีกครั้ง คราวนี้พวกเขาแพ้ เวสต์แฮม ยูไนเต็ด 3-1 ชนิดว่าสู้ไม่ได้เลย และยังเป๋ได้อีก เมื่อพลาดท่า โดน เอฟเวอร์ตัน ตีเสมอ 1-1 จากฝีเท้าของ ฟิล จากีลก้า ในช่วงทดเวลาบาดเจ็บอย่างสุดเซ็ง
ยังไม่พอ ลิเวอร์พูล ปิดท้ายด้วยสถิติใหม่ของการดวลจุดโทษมาราธอนเหนือ มิดเดิ้ลสโบรซ์ 14-13 ในรายการ แคปิตอล วัน คัพ อีกด้วย
ตุลาคม
เดือนแห่งความบัดซบของแท้ ลิเวอร์พูลเริ่มต้นด้วยการปราชัยต่อ เอฟซี บาเซิ่ล 1-0 และต่อด้วยการโดน เรอัล มาดริด บุกมาบอมบ์แหลกถึง แอนฟิลด์ 3-0
ส่วนใน พรีเมียร์ ลีก ลัลลาน่า ก็ประเดิมประตูแรกได้ในเกมซิว เวสต์บรอมวิช อัลเบี้ยน 2-1 ตามด้วยชัยชนะสุดบ้าคลั่งในวินาทีสุดท้ายเหนือ ควีนส์ปาร์ค เรนเจอร์ส 3-2 ที่ ลอฟตัส โร้ดส์ แต่ก็มาสะดุดในเกมไร้ไอเดีย เมื่อทำได้แค่เจ๊า ฮัลล์ ซิตี้ 0-0 คาบ้านตัวเอง
เรื่องดีเรื่องเดียวของเดือนนี้คือ การพลิกเอาชนะ สวอนซี ซิตี้ 2-1 ใน แคปิตอล วัน คัพ เท่านั้นเอง
พฤศจิกายน
ความน่าอับอายของหงส์แดงมาเต็มที่ในเดือนนี้ ลิเวอร์พูล แพ้รวด 4 นัดติดต่อกันในทุกรายการ ไล่ตั้งแต่ นิวคาสเซิล, เรอัล มาดริด, เชลซี และ คริสตัล พาเลซ
จากนั้น ร็อดเจอร์ส ตัดสินใจพักผู้เล่นตัวหลักเพียบในเกมที่แพ้ ราชันชุดขาว 1-0 ที่ ซานติอาโก้ เบอร์นาเบว จนถูกชาวบ้านวิจารณ์อย่างหนักว่าส่งทีมลงไปแพ้รึเปล่า
ผลเสมอ 2-2 ที่บัลแกเรีย ในการเจอ ลูโดโกเร็ตส์ ตามติดด้วยการเสมอ 0-0 กับ เอฟซี บาเซิ่ล ทำให้ทีมเริ่มเลือนรางในการหวังเข้ารอบ ยูฟ่า เชมเปี้ยนส์ ลีก พร้อมปิดท้ายเดือนแห่งความชอกช้ำด้วยการสังหาร สโต๊ค ซิตี้ 1-0 จากประตูโขกเลือดสาดของ จอห์นสัน
ธันวาคม
และแล้วชะตากรรมใน ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ก็จบสิ้นลงในเดือนนี้ เมื่อ ลิเวอร์พูล จนปัญญาเอาชนะ บาเซิ่ล ในบ้าน ทำได้แค่เสมอ 1-1 ซึ่งไม่เพียงพอกับการผ่านเข้ารอบน็อคเอาท์ ต้องหล่นจาก ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ไปเล่น ยูโรป้า ลีก แทน ตามด้วยการถูก แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ดาหน้าถล่มคา แอนฟิลด์ ถึง 3-0 ชนิดเจ็บปวดกันทั้งโลก
แต่แล้วสัญญานที่ดีก็เริ่มปรากฎ เมื่อพวกเขาเอาชนะทีมบ๊วยอย่าง เลสเตอร์ ซิตี้ 3-1 ต่อด้วยการเข้ารอบ แคปิตอล วัน คัพ เมื่อบุกไปยำ เอเอฟซี บอร์นมัธ 3-1 และดับซ่า เบิร์นลี่ย์ ในวันเปิดซิง บ๊อกซิ่ง เดย์ 1-0
ประตูตีเสมอของ สเคอร์เทล 2-2 ในนาที 97 ช่วยให้ทีมแคล้วคลาดการแพ้ อาร์เซน่อล ได้สำเร็จ พร้อมรักษาความหวังในการคว้าอันดับ 4 ได้อยู่
และล่าสุดผลงานขั้นมาสเตอร์พีท เมื่อโชว์ฟอร์มไฉไล ไล่กระหน่ำสวอนซี ซิตี้ 4-1 จากการเหมาสองประตูของ ลัลลาน่า ทำให้ทีมปิดผลงานในปี 2014 ด้วยอันดับ 8 มี 28 คะแนนตามหลัง เซาท์แฮมป์ตัน อันดับ 4 ในตอนนี้ เพียงแค่ 5 คะแนนเท่านั้น
เราคงต้องมาลุ้นเอาใจช่วยกันต่อไปว่า ลิเวอร์พูล ในปี 2015 จะกลับมาคว้าอันดับ 4 ได้หรือไม่ ผลงานในฟุตบอลถ้วยอย่าง แคปิตอล วัน คัพ, เอฟเอ คัพ และ ยูโรป้า ลีก จะเป็นอย่างไรติดตามกันต่อไปครับทุกท่าน
ADS
- สล็อตเว็บตรง
- https://www.nccecojustice.org/
- สล็อตเว็บตรง
- สล็อตเว็บตรง
- https://www.world-foodhistory.com/
- สล็อตเว็บตรง
- เว็บสล็อต
- https://www.cormedspa.com/
- เว็บสล็อต
- สล็อตเว็บตรง
- https://lctglobal.com/
- สล็อตเว็บตรง
- เว็บสล็อต
- https://www.preventingoverdiagnosis.net/
- เว็บสล็อต
- สล็อตเว็บตรง
- https://www.demographie-responsable.org/
- สล็อตเว็บตรง
- สล็อตเว็บตรง
- https://track21houston.com/
- สล็อตเว็บตรง