หน้าแรก / ข่าวลิเวอร์พูล / พรีวิว พรีเมียร์ลีก เซาท์แฮมป์ตัน -vs- ลิเวอร์พูล

พรีวิว พรีเมียร์ลีก เซาท์แฮมป์ตัน -vs- ลิเวอร์พูล

StevieG 2014-02-27 15:31:54
พรีวิว พรีเมียร์ลีก เซาท์แฮมป์ตัน -vs- ลิเวอร์พูล

พรีวิว พรีเมียร์ลีก เซาท์แฮมป์ตัน -vs- ลิเวอร์พูล

สนาม เซนต์ แมรี่ส์ สเตเดี้ยม

วันเสาร์ที่ 1 มีนาคม 2014 เวลา 00.30 น.

ผู้ตัดสิน ลี โพรเบิร์ต

ถ่ายทอดสดช่อง CTH Stadium 2

พรีวิวการแข่งขัน

ลิเวอร์พูล

          "แนวรับประตูน้ำ" นิยามสั้น ๆ สำหรับเกมรับที่เสียประตูมากมายเหลือเกิน โดย 3 เกมหลังสุด เสียไปถึง 7 ประตู (ชนะ ฟูแล่ม 3-2, แพ้ อาร์เซน่อล 1-2, ชนะ สวอนซี ซิตี้ 4-3) และดูเหมือนว่าการกลับมาของ เกล็น จอห์นสัน กับ แดเนี่ยล แอ็กเกอร์ ก็ยังไม่สามารถตอบโจทย์ข้อนี้ได้ตรงจุด ซึ่งก่อนหน้านี้ เบรนแดน ร็อดเจอร์ส กุนซือสมองเพชร ออกมาบอกว่า "การจะเล่นเกมรับให้ได้เหนี่ยวแน่น ต้องอาศัยประสบการณ์ที่สะสมมาเท่านั้น เรื่องนี้ไม่มีใครสอนใครได้"

          สถานการณ์ของทีมตอนนี้ พวกเขาอยู่อันดับที่ 4 ตามหลังจ่าฝูง เชลซี อยู่เพียงแค่ 4 แต้ม ซึ่งเกมนัดที่ 28 ของ "หงส์แดง" จะต้องลงเตะหลังจากที่ทีมอันดับเหนือกว่าอย่าง "สิงห์บูลส์" และ อาร์เซน่อล แข่งขันเสร็จสิ้นแล้ว จึงน่าจะส่งผลต่อความกดดันก่อนเกมอย่างแน่นอน และการบุกไปเยือนที่ เซนต์ แมรี่ส์ สเตเดี้ยม ก็ไม่ใช่งานง่ายอีกด้วย เพราะ 2 เกมหลังสุดที่ทั้งคู่พบกัน ลิเวอร์พูล เป็นฝ่ายพ่ายไปทั้ง 2 ครั้งเลยทีเดียว (1-3,0-1) กลายเป็นของแสลงสำหรับ "หงส์แดง" ไปซะแล้ว

          สำหรับสภาพความพร้อมของทีมล่าสุดตอนนี้ "บีร็อด" ได้รับข่าวดีอย่างต่อเนื่อง เมื่อปราการหลังผิวสี มามาดู ซาโก้ และมิดฟิลด์ฟ้าประทาน ลูคัส เลว่า หายเจ็บกลับมาลงซ้อมกับเพื่อนร่วมทีมได้แล้ว แต่คาดว่าอาจจะต้องใช้เวลาสัก 1-2 อาทิตย์ เพื่อเรียกความฟิตให้เต็มถึงเหมือนเดิม เพราะฉะนั้นในรายของนักเตะที่บาดเจ็บที่ยังคงเหลือ ก็จะเป็นทางด้านของ "อาเบะ" โฆ่เซ่ เอนริเก้ ที่ยังไม่ฟื้นตัวจากการผ่าเข่า ทำให้ขุมกำลังในทุกตำแหน่งของลูกทีม ร็อดเจอร์ส มากันพร้อมหน้าพร้อมตาเกือบครบ 100%

          การหายไปของ ลูคัส เลว่า ไม่เป็นปัญหาอีกแล้ว เมื่อ "กัปตันเจิด" สตีเว่น เจอร์ราร์ด สามารถปรับบทบาทใหม่ โดยการลงไปเล่นในตำแหน่งมิดฟิลด์ตัวคุมจังหวะเกม หรือกองกลางตัวต่ำคอยเชื่อมเกมจากหลังไปหน้า แม้ว่า 2-3 นัดแรกอาจจะยังทำผลงานไม่ค่อยดีนัก แต่หลังจากมีการลงสนามในบทบาทนี้อย่างต่อเนื่อง จึงทำให้เขาปรับตัวได้ดี และทำหน้าที่ในสนามได้อย่างยอดเยี่ยม และปล่อยให้ จอร์แดน เฮนเดอร์สัน กับ ฟิลิปเป้ คูตินโญ่ ทำเกมในแดนกลางอย่างอิสระมากขึ้นจากเดิม โดยไม่ต้องห่วงด้านหลังอีกต่อไป

          ส่วนผู้เล่นในเกมรุกอย่าง 3 ประสาน "SSS" ในแดนหน้ายังคงพิษสงร้ายกาจ ไม่ว่าจะเป็น หลุยส์ ซัวเรซ, แดเนี่ยล สเตอร์ริดจ์ และ ราฮีม สเตอร์ลิ่ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในรายของ "คิงหลุยส์" ได้ปรับเปลี่ยนบทบาทเล็กน้อย ด้วยการสวมบทเพลย์เมกเกอร์ในแดนหน้า การจ่ายบอลหรือออกบอลของเขา เรียกได้ว่าไม่ธรรมดาจริง ๆ สามารถป้อนให้เพื่อนร่วมทีมหลุดเข้าไปยิงง่าย ๆ ส่งผลให้เขาขึ้นนำทั้งดาวซัลโว (23 ประตู) และจอมแอสซิส (9 ครั้ง) อีกด้วย ไม่น่าเชื่อว่าแนวรุกของ "เครื่องจักรสีแดง" ยุคใหม่นี้จะกลับมายิ่งใหญ่อีกครั้ง และทำสถิติยิงประตูแซงหน้า แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ไปแล้วด้วย (70 ประตู)

          อย่างที่ได้กล่าวเอาไว้ข้างต้นว่า การบุกไปเยือน "นักบุญแดนใต้" ที่ เซนต์ แมรี่ส์ สเตเดี้ยม เป็นงานที่โหดหินมาก ลูกทีมของ มาริซิโอ โปเช็ตติโน่ รู้ดีว่าพวกเขาจะต้องจัดการกับแนวรับของ "หงส์แดง" อย่างไร ก็ได้แต่หวังว่า ร็อดเจอร์ส จะสามารถกระตุ้นลูกทีมให้เล่นเกมรับอย่างเหนียวแน่นรัดกุมและมีสมาธิมากกว่านี้ ส่วนตัวผมมองว่า ลิเวอร์พูล มีโอกาสชนะ 40% เสมอ 30% และพลาดท่าแพ้ 30% ถึงจะชนะก็คงชนะไม่ขาด และมีแนวโน้มว่าจะเสียประตูอีกด้วย

เซาท์แฮมป์ตัน

          "นักบุญแดนใต้" เพิ่งจะเสียสถิติไร้พ่าย 6 เกมในลีกติดต่อกัน หลังจากเกมล่าสุดบุกไปพ่าย เวสต์แฮม ยูไนเต็ด 1-3 เรียกว่าเสียหายพอสมควร ทั้ง ๆ ที่พวกเขาออกนำไปก่อนในนาทีที่ 8 จาก มายะ โยชิดะ แต่มาก็มาโดน 3 ประตูรวด และแพ้ไปในที่สุด เล่นเอา มาริซิโอ โปเช็ตติโน่ ฉุนขาดกับลูกทีมของตน

          สำหรับความพร้อมของทีมในวันนี้ จะขาดแค่ในรายของ ยอส ฮอยเวลด์ ปราการหลังชาวดัตช์ ที่เจ็บยาวตั้งแต่ปีที่แล้ว หมดสิทธิ์ลงสนามแน่นอน ส่วนผู้เล่นในตำแหน่งอื่น ๆ อยู่กันครบครัน ไม่ว่าจะเป็นแนวรุกอย่าง อดัม ลัลลานา, เจย์ โรดริเกซ และ ริคกี้ แลมเบิร์ต รวมไปถึง มิดฟิลด์ห้องเครื่องอย่าง สตีเฟ่น เดวิส ที่ฟิตสมบูรณ์เช่นเดียวกัน งานนี้เรียกได้ว่า โปเช็ตติโน่ มีตัวให้เลือกใช้กันล้นมือเลยทีเดียว

          ถ้าพวกเขาสามารถเก็บสามแต้มในเกมนี้ได้ ไม่แน่ว่าพวกเขาอาจจะทำอันดับขยับแซง นิวคาสเซิ่ล ก็เป็นได้ เพราะว่า "สาลิกาดง" มีคิวต้องบุกไปเยือน ฮัลล์ ซิตี้ ที่ช่วงนี้ฟอร์มกำลังแรง เพราะฉะนั้นงานนี้ "นักบุญแดนใต้" คงจะต้องเล่นเพื่อ 3 แต้มอย่างแน่นอน ไม่ใช่การเล่นเพื่อประคองตัว และเมื่อดูจากสถิติเก่า ๆ ในการลงเล่นที่ เซนต์ แมรี่ส์ สเตเดี้ยม พวกเขาไม่เคยแพ้ ลิเวอร์พูล เลย นับตั้งแต่ปี 2004

รายชื่อนักเตะบาดเจ็บ / หมดสิทธิ์ลงสนาม / เช็คฟิต

ลิเวอร์พูล

ลูคัส เลว่า (เช็คฟิต)
มามาดู ซาโก้ (เช็คฟิต)
โฆเซ่ เอ็นริเก้ (เข่า)

เซาท์แฮมป์ตัน

ยอส ฮอยเวลด์

รายชื่อนักเตะที่คาดว่าจะลงสนาม

ลิเวอร์พูล (4-3-3) : ซิมง มิโญเล่ต์ ; จอห์น เฟลเนแกน, มาร์ติน สเคอร์เทล, แดเนี่ยล แอ็ดเกอร์, เกล็น จอห์นสัน ; ฟิลิปเป้ คูตินโญ่, สตีเว่น เจอร์ราร์ด, จอร์แดน เฮนเดอร์สัน ; ราฮีม สเตอร์ลิง, หลุยส์ ซัวเรซ, แดเนี่ยล สเตอร์ริดจ์

เซาท์แฮมป์ตัน (4-2-3-1) : อาเธอร์ โบรุค ; คัลลั่ม แชมเบอร์ส, มายะ โยชิดะ, โชเซ่ ฟอนเต้, ลุค ชอว์ ; มอร์แกน ชไนเดอร์แลง, แจ็ค คอร์ก ; สตีเฟ่น เดวิส, อดัม ลัลลานา, เจย์ โรดริเกซ ; ริคกี้ แลมเบิร์ต

ADS