5 เหตุผลว่าทำไม "หงส์แดง" จะจบท็อปโฟร์

          หลังจากผ่านครึ่งทางของศึกพรีเมียร์ลีกฤดูกาล 2013-14 เรียกได้ว่าฝันของเหล่าสาวก "เดอะ ค็อป" เริ่มใกล้ความเป็นจริงขึ้นมาอีกครั้ง กับโอกาสที่จะได้ไปโลดแล่นในเวทียุโรปในซีซั่นหน้า วันนี้ผมมี 5 เหตุผลที่จะทำให้ ลิเวอร์พูล ติดท็อปโฟร์มานำเสนอครับผม...

1. ฟอร์มการเล่น

          สไตล์การเล่นที่ดุดัน น่าตื่นเต้น ทำให้ ลิเวอร์พูล ในฤดูกาลนี้ มีการในบ้านที่ดีมากขึ้นแตกต่างกับช่วง 2-3 ปีให้หลัง ที่มักจะทำแต้มหลุดอยู่บ่อยครั้งในการเป็นเจ้าถิ่น ซึ่งฤดูกาลนี้สถิติการเล่นในถิ่นแอนฟิลด์ของพวกเขาติดหนึ่งในสามของลีก ขนาบข้างมาด้วย เชลซี และ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ "หงส์แดง" มีเกมรุกที่ถล่มประตูคู่แข่งในเกมเหย้าที่ 38 ลูก เป็นรอง "เรือใบสีฟ้า" แค่ 4 ลูกเท่านั้น

2. การแข่งขัน

          "ไก่เดือยทอง" น่าจะเป็นคู่แข่งสำคัญที่สุดในเวลานี้กับการลุ้นพื้นที่อันดับ 4 นอกจากนี้ยังมี เอฟเวอร์ตัน ซึ่งฤดูกาลนี้พวกเขามาทำได้ดีมากขึ้นกว่าเดิม และนับว่าเป็นหนึ่งในทีมที่น่าจะมีสิทธิ์ลุ้นได้เช่นกัน แต่ปัญหาของ "ท๊อฟฟี่สีน้ำเงิน" ก็คือขนาดทีมที่ค่อนข้างเล็ก และขุมกำลังที่พอจะเป็นทีเด็ดได้ก็ยังมีไม่พอ ส่วน แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ยังไกลห่างที่จะก้าวมาขึ้นมาแย่งพื้นที่ครั้งนี้

3. "SAS"

          คู่หูมหาประลัยระหว่าง หลุยส์ ซัวเรซ (23 ประตู) กับ แดเนี่ยล สเตอร์ริดจ์ (16 ประตู) ช่วยทำให้ฟอร์มการเล่นดูดีขึ้น เกมรุกมีมิติมากขึ้นและความน่ากลัวของ "หงส์แดง" เพิ่มขึ้นทวีคูณ กลายเป็นหัวใจสำคัญของทีมชนิดที่ขาดคนใดคนหนึ่งไม่ได้ แม้ว่าในบางครั้งพวกเขาจะไม่ได้ลงสนามพร้อมกันเพราะอาการบาดเจ็บของ สเตอร์ริดจ์ หรือโทษแบนของ ซัวเรซ ก็ตาม แต่ก็ไม่อาจส่งผลต่อโมเมนตัมและระบบการเล่นของทีม พวกเขาคือ "ภัยร้ายของคู่แข่ง" อย่างแท้จริง

4. คูตินโญ่

          หลังจากที่เจ้าตัวตบเท้าเข้าสู่ถิ่น แอนฟิลด์ ทำให้ทีมมีเพลย์เมกเกอร์ชั้นยอด มาช่วยสร้างสรรค์เกมรุก และสอดประสานกับคู่หู SAS ได้อย่างลงตัว กลายเป็นผู้เล่นที่ขาดไม่ได้ในการจัดตัวลงสนามทุกครั้งของ เบรนแดน ร็อดเจอร์ส จากจังหวะการเล่นที่รวดเร็วของเขา, ความคล่องตัว, ฝีเท้า และมันสมองในการเล่น ทำให้เขายืดตัวจริงในทีมอย่างต่อเนื่องในฤดูกาลนี้

5. โปรแกรมการแข่งขัน

          โปรแกรมการแข่งขันที่เหลือของ ลิเวอร์พูล อาจจะยังมีบางเกมที่ยากลำบากอยู่ ในการเล่นกับ เชลซี, สเปอร์ส และ แมนฯ ซิตี้ แต่นั่นเป็นเกมที่พวกเขาได้เล่นในบ้านทั้งหมด เสียงเชียร์ของเหล่าบรรดาสาวก "เดอะ ค็อป" เปรียบเสมือนผู้เล่นคนที่ 12 คอยกระตุ้นและให้กำลังใจอยู่ด้านหลัง