หน้าแรก / ข่าวลิเวอร์พูล / ความเห็นหลังเกมโดยทีมงานสยามลิเวอร์พูล

ความเห็นหลังเกมโดยทีมงานสยามลิเวอร์พูล

ความเห็นหลังเกมโดยทีมงานสยามลิเวอร์พูล

     ก่อนเกมนี้จะเรื่ม ลิเวอร์พูล ก็มีข่าวให้ชวนปวดกบาลแต่หัววัน จากการที่ บาโลเตลลี่ ไปโพสต์ข้อความต้านเหยียดสีผิว จนเอฟเอ อาจจะเรียกไปสอบสวน และเสี่ยงที่จะโดนแบนได้ถึง 5 นัด แต่เจ้าตัวก็มาขอโทษขอโพย หน้าวอลตัวเอง ซึ่งคาดว่าเรื่องก็คงจะซาหายไปเอง เอากับมันสิ โอ้เอ๊ยยยย

     เจ้าบ้านบ๊วยเกมนี้มาเต็มสูบ ด้วยผู้เล่นชุดเดิมๆ นำโดย อูยัว และ วาร์ดี้ พร้อมปีกอย่าง มาห์เรซ และกลางพันธุ์แก่อย่าง กัมบิอาซโซ่ ซึ่งพวกเขากำลังโคม่าอย่างแรง หนักกว่าลิเวอร์พูลมาก เพราะไม่ชนะใครเลยมานาน นับตั้งแต่ ฟลุ๊กชนะ แมนยูไนเต็ด 5-3 จากนั้นมาก็สาละวันเตี้ยลง เสมอกับแพ้มันทุกวัน ดังนั้นงานนี้ต้องตบบ๊วยสถานเดียว

     ขณะที่หงส์แดงเรา ยังคงเน้นความต่อเนื่อง เลือกที่จะใช้ ตูเร่ แทน ลอฟเรนต่อไป กลางตัวตัดเกมคือ ลูคัส คนเดิม พร้อมส่ง เจอร์ราร์ด เป็นตัวจริง แถม ลัลลาน่า อยู่ปัีกขวา ดร็อป คูตินโญ่ ไว้ข้างสนาม และให้ แลมโบ้ เป็นหน้าเป้าไว้บดบี้หลังเจ้าบ้าน

     เริ่มเกมมา เจ้าบ้านก็บุกไม่ฟังเสียง เกมแลกกันชนิดไม่รู้เก็บกดอะไรกันมา แต่ก็เป็นจิ้งจอกที่ขึ้นนำไปก่อน จากจังหวะที่ปีกเจ้าบ้านแหวกมายิง แล้วบอลมาถึง อูยัว เลี้ยงเข้าไปหาประตูอย่างใจเย็น แล้วยิงหักข้อชนเสา ไปเด้งชนตัว มิโญเลต์ ขึ้นนำแบบงงๆ ซึ่งลูกนี้ไม่รู้จะไปโทษใครดี นอกเสียจาก สเคอร์เทล นั่นเอง ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

     แต่หงส์เรายังใจไม่เสีย นาที 26 ก็มาได้ประตูตั้งให้เกมกลับมา จากลูกฟรีคิกเซตพีท ที่เจอร์ราร์ด เปิดมาให้ในกรอบโทษ แล้ว แลมเบิร์ต เข้าไปพัวพัน แล้วบอลกระดอนมาหา ลัลลาน่า ยิงเข้าไปแบบเต็มๆ สุดงาม ตีเจ๊า 1-1 แบบเวลาเหลือเฟือ

     ช่วงท้ายครึ่งแรก เกมเริ่มหนัก ปะทะกันแรง เลยมีคนโดนใบเหลืองไปบ้าง แล้วเกมก็จบ 45 นาทีแรก ด้วยการเสมอในรูปเกมที่ ลิเวอร์พูล ดีกว่าในแง่การจบสกอร์

     เริ่ม 45 นาทีหลังปั๊บ เลสเตอร์ ไม่รู้ไปกินอะไรมา พวกจิ้งจอกใส่ยับ ขึ้นเกมทางปีกด้วยความเร็ว คอยโจมตี ซึ่งที่จริงถ้าเกมนี้ เลสเตอร์ มีกองหน้าที่ประสานงานดีกว่านี้กับแดนกลาง น่าจะมีโอกาสยิงที่มากกว่า ทำให้ปีกของพวกเขาต้องเล่นเกมแบบไปเอง ชงเอง ยิงเอง เป็นส่วนใหญ่ แล้ววันนี้ มิโญเลต์ ดันฟอร์มดีเสียด้วย

     นาที 54 หงส์เราก็มานำ 2-1 แบบมีโชคจากความผิดพลาดของแนวรับเจ้าบ้าน เมือ่ มอร์แกน สกัดบอลไม่ดี มาเข้าทาง เจอร์ราร์ด หน้าจุดโทษ แล้วพี่เจิดก็วิงมายิืงเลือกมุมแบบใสๆง่ายๆ ให้ทีมพลิกแซง และเป็นสถิติครั้งแรกที่ เขายิงเลสเตอร์ได้ในชีวิต

     จากนั้นเกมดุเดิอดเกินบรรยาย ทั้งสองฝ่ายเตะติดตาบทั้งคู่ โดยเฉพาะ ลูคัส และ มอร์แกน แล้วมาเดือดปรอทแตก เมื่อ มอร์แกน โดนใบแดง ฐานไปเหนี่ยว แลมเบิร์ต ในจังหวะจะหลุดเดี่ยวจนล้ม เลยต้องไปอาบน้ำก่อนใครๆ แต่เกมของจิ้งจอกก้ไม่ได้ผ่อนลงเลย ปีกของพวกเขายังทำงานกันดี บุกมาเปิดยัดเป็นระลอกๆๆๆ จนกองหลังของเราต้องเตะทิ้ง เสียเตะมุมนับไม่ถ้วน แถมมีเตะคนบ้างก็มี

     ท้ายเกม ลิเวอร์พูล ก็มาได้ประตูฝังเพชร 3-1 จากความผิดพลาดของนักเตะเจ้าบ้านอีกคน อย่าง ชไมเคิล ที่รับบอลไม่อยู่ แล้วเป็น สเตอร์ลิ่ง ใช้ความเร็วตอกส้นให้ เฮนโด้ ยิงเข้าไป หลังจากนั้น เกมก็ช้าลงเพราะหงส์แดงเลือกดึงจังหวะช้าแล้ว

     เกมนี้จุดที่น่าชื่นชมคือการที่ สเตอร์ลิ่ง เล่นได้ดีมาก และมีส่วนร่วมกับแทบทุกประตูในเกมนี้ คอยลากเลื้อยอันตราย จนแนวรับเจ้าบ้านที่แก่ๆ เต่าๆ ต้องเอาไม่อยู่ คอยพะวงเตะทิ้งเตะขว้างจนผิดพลาด ส่วนแลมเบิร์ต ก็มีประโยชน์มาก ในการบดบี้ด้วยวิธีเล่นแบบโบราณ ที่ขยันไล่ทุกชอต แม้ไม่ค่อยมีความเร็วก็ตาม

     อีกทั้งจังหวะการยิงประตูที่ไม่รู้จะดีใจหรือเสียใจ ยิ 10 ครั้ง เข้ากรอบ 3 เป็นประตู 3 บ่งบอกว่าแม้จะยิงทิ้งขว้าง แต่ลูกที่ต้องได้ พวกเราก็ยังไม่พลาด ผนวกกับ กองหลังเลสเตอร์ และแนวรับคนอื่นๆ เล่นพลาดในรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ทำให้เสียท่าให้แข้งหงส์ที่มีความเก๋าและนิ่งกว่า ต้องชนะไปในที่สุด

     จบเกมนี้ลิเวอร์พูลจะขึ้นอันดับ 8 มี 20 แต้มเท่าอาร์เซน่อล ตามอันดับ 4 อย่างแมนยูไนเต็ดที่มี 25 แต้ม ไม่ห่างแล้ว เรียกว่ายังมีลุ้นท็อปโฟร์ยาวๆ ถึงท้ายฤดูกาล

     คืนนี้กระทาชายอย่าง ร็อดเจอร์ส คงได้นอนฝันดีกว่าคืนก่อนๆ แน่นอน รวมทั้งพวกเราด้วยเช่นกัน หวังว่ามรสุมนี้จะผ่านไปแล้วได้แล้วนะครับ เพื่อนๆ สุ้ต่อไป อย่าได้ถอย ลิเวอร์พูลของพวกเราเด้ออ

ADS