หน้าแรก / ข่าวลิเวอร์พูล / 5 สิ่งที่ได้เรียนรู้และควรแก้ไข หลังเกมตีเจ๊า ลูโดโกเร็ตส์

5 สิ่งที่ได้เรียนรู้และควรแก้ไข หลังเกมตีเจ๊า ลูโดโกเร็ตส์

5 สิ่งที่ได้เรียนรู้และควรแก้ไข หลังเกมตีเจ๊า ลูโดโกเร็ตส์

     แน่นอนว่าเหล่านักเตะ "เร้ด แมชชีน" ต้องผิดหวังกันแบบไม่น่าสงสัย หลังไม่สามารถคว้าสามแต้มจากการไปเยือนยอดทีมของ บัลแกเรีย อย่าง ลูโดโกเร็ตส์ ราซกราด ได้ เมื่อคืนนี้ โดยเป็นฝ่ายถูกขึ้นนำไปก่อนตั้งแต่ต้นเกม ก่อนจะได้ ริคกี้ แลมเบิร์ต โหม่ง ตีตื้นขึ้นมาเป็น 1-1 จากนั้นเป็น จอร์แดน เฮนเดอร์สัน ที่ทำประตูพลิกกลับมาแซงได้สำเร็จ แต่ก็ต้องชอกช้ำเมื่อต้องเสียประตูจากลูกเตะมุมในช่วงก่อนจบเกม ส่งผลให้ต้องเสมอไปแบบเซ็งๆ 2-2

 

 

     แม้จะต้องหัวเสียกับการต้องเสมอกับเจ้าบ้าน แต่ทว่าเรายังมีโอกาสเข้ารอบถ้าสามารถเอาชนะได้นัดถัดไป จากเกมเมื่อคืน เราได้เห็นอะไรหลายๆอย่าง และนี่คือ 5 สิ่งที่เราได้รู้จากการเจ๊ากับ ลูโดโกเร็ตส์ ราซกราด แชมป์เก่าลีกบัลแกเรีย

 

5. ลูคัส ยังคงมีอนาคตกับลิเวอร์พูล

 

 

     มิดฟิลด์ชาวบราซิลเลียนของลิเวอร์พูล เป็นผู้เล่นที่เก่งที่สุดที่จะรับบทกองกลางตัวรับในทีมชุดนี้ เขาเป็นคนที่มีความสามารถในการแย่งบอล และพาบอลไปข้างหน้าได้อย่างรวดเร็ว ในขณะที่สามารถถอยกลับไปสนับสนุนกองหลังได้อีกด้วย การมีเขาอยู่ในสนามทำให้คลายความกดดันจาก สตีเว่น เจอร์ราร์ด ที่ดูเล่นได้อย่างผ่อนคลายมาก ในเกมนี้ ลูคัส จะกลายเป็นนักเตะอะไหล่สำคัญของ ร็อดเจอร์ส ตลอดทั้งซีซั่น มีบางอย่างที่จำเป็นต้องเปลี่ยนแปลง

 

4. สเตอร์ลิ่ง ต้องได้รับอิสระในการสร้างสรรค์เกมมากกว่านี้

 

 

     ราฮีม สเตอร์ลิ่ง เป็นคนที่โชว์ฟอร์มสะเด่าที่สุดของทีมเมื่อคืนนี้ เขาทำให้กองหลังของ ลูโดโกเร็ตส์ ต้องปวดหัวกับ ความเร็ว ทักษะ และการเคลื่อนไหวของเขา นั่นทำให้เห็นชัดเจนแล้วว่าควรใช้เขาเป็นศูนย์กลางขับเคลื่อนทีม หากได้โลดแล่นไปในพื้นที่ปีกทั้งสองฝั่งของสนาม จะทำให้เขามีประสิทธิภาพมากที่สุด สัปดาห์ที่ผ่านมา สเตอร์ลิ่ง โดดเดี่ยวในฝั่งขวามากเกินไป และขาดความอิสระในการทำเกมที่จะสร้างผลกระทบให้กับทีม เขาจำเป็นต้องเล่นอยู่หลังกองหน้า ในตำแหน่งหน้าต่ำ

 

3. ต้องเน้นให้หนักกับการรักษาสกอร์นำคู่แข่ง

 

 

     ที่ผ่านจนตอนนี้ เราปฏิเสธที่จะเรียนรู้จากความผิดพลาด ในเกมเมื่อคืน เราเอาแต่ตั้งรับรอหมดเวลา แต่สุดท้ายก็ต้องเสียประตูที่ไม่น่าเสีย ในขณะที่สามารถทำประตูฝังคู่แข่งเพื่อลบล้างฟอร์มบู่ที่ผ่านมาได้ จากเหตุการณ์นี้ทำให้เห็นว่า แม้จะนำอยู่ เราก็ต้องตั้งหน้าตั้งตาบุกต่อ เพื่อชนะแบบสบายๆไม่ต้องลุ้นมาก และเมื่อคืนหลังจากถูกตีเสมอ อาวุธลับที่ถูกส่งลงมาก็คือ อัลแบร์โต้ โมเรโน่ ที่ลงมาเล่นแทน ราฮีม สเตอร์ลิ่ง ในตำแหน่งปีกซ้าย เราไม่ควรใช้แผนจอดรถบัสกับทีมฝั่งตรงข้ามที่มีมาตรฐานดีเช่นนี้

 

2. มิโญเล่ต์ ต้องการความช่วยเหลือในการรับมือกับความผิดพลาดของเขา

 

 

     พลาดอีกแล้วครับ สำหรับ มิโญเล่ต์...ทำซองแตกจนเสียประตูแรกตั้งแต่ต้นเกมเลยทีเดียว ปัญหาของเขาก็คือความไม่เด็ดขาด และไม่แน่นอน แต่ก็ดูเหมือนว่าเขากำลังขาดความมั่นใจ ทำให้เกิดความผิดพลาดในช่วงเวลาสำคัญ หนึ่งสิ่งที่ขาดไปก็คือ คนที่จะสามารถเข้ามาแข่งขันเพื่อแย่งชิงตำแหน่งตัวจริงกับนายทวารชาวเบลเยียมคนนี้ ซึ่งแน่นอนว่า แบรด โจนส์ ไม่สามารถลงเฝ้าเสาเป็นตัวจริงในเกมใหญ่ๆ แย่งตำแหน่งกับ มิโญเล่ต์ ได้แน่นอน และ "หงส์แดง" จำเป็นต้องมีการเปลี่ยนแปลงสำหรับจุดนี้ในช่วงตลาดซื้อขายนักเตะเดือนมกราคมที่กำลังใกล้เข้ามาเรื่อยๆ

 

1. ต้องทำโอกาสสุดท้ายให้สำเร็จ

 

 

     เรื่องดีที่สุดที่เกิดขึ้นเมื่อคืนนี้คือการที่ เรอัล มาดริด เอาชนะ บาเซิล ไปได้ 1-0 จากผลการแข่งขันดังกล่าวหมายความว่า ถ้าเราสามารถเอาชนะ "เจ้าค้างคาว" จากสวิสได้ในถิ่น แอนฟิลด์ ในอีก 2 สัปดาห์หน้า จะทำให้ "หงส์แดง" ผ่านเข้าสู่รอบ 16 ทีมสุดท้ายโดยอัตโนมัติ ถ้าอยากให้ทฤษฎีข้างต้นเกิดขึ้นจริง ร็อดเจอร์ส และลูกทีมของเขาจำเป็นต้องต้องโชว์ฟอร์มให้ดีมากกว่าที่เคยทำกับการหวนกลับมาเล่นในถ้วยยุโรปหลังจากร้างเวทีไป 5 ปี โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับทีมที่ชอบเช็คบิลทีมจากแดนผู้ดี

 

 

     เอาเป็นว่าอย่าเพิ่งรีบด่วนสรุปว่าเราจะตกรอบกันเลยครับ ยังมีนัดสุดท้ายกับ บาเซิล ให้ได้ลุ้นอีกหนึ่งนัด ถ้าหากทัพนักเตะ "หงส์แดง" สามารถเอาชนะผู้มาเยือนจากสวิสเซอร์แลนด์ได้ ในถิ่นแอนฟิลด์ ก็จะผ่านเข้าสู้รอบ 16 ทีมสุดท้ายทันที ต่อหน้าต่อตา "เดอะ ค็อป" ทั้งสนาม หวังว่าในค่ำคืนนั้น พวกเราจะทำได้สำเร็จ และจะได้ยินเพลง "You"ll Never Walk Alone" ดังกึกก้องทั่วทั้งแอนฟิลด์ และเมอร์ซีย์ไซด์ สู้ๆ ลิเวอร์พูล !!!

ADS