หน้าแรก / ข่าวลิเวอร์พูล / 3 สิ่งที่ ''หงส์แดง'' ควรทำในยามตกต่ำเช่นนี้

3 สิ่งที่ ''หงส์แดง'' ควรทำในยามตกต่ำเช่นนี้

leivagod 2014-11-21 12:15:11 หงส์แดง , ลิเวอร์พูล
3 สิ่งที่ หงส์แดง ควรทำในยามตกต่ำเช่นนี้

3 สิ่งที่ ''หงส์แดง'' ควรทำในยามตกต่ำเช่นนี้

     ''หงส์แดง'' ลิเวอร์พูล เพิ่งได้รับข่าวร้ายอีกครั้งเมื่อศูนย์หน้า ''จอมเซิ้ง'' อย่าง ดาเนียล สเตอร์ริดจ์ ได้รับอาการบาดเจ็บซ้ำจากเดิมเข้าไปอีกทำให้ต้องพักอีกราวๆถึง 6 สัปดาห์ เลยทีเดียว ทั้งๆที่ก่อนหน้านี้ ''เต้ยโศก'' ก็ไม่ได้ลงรับใช้ให้กับทีมชาติ อังกฤษ และ ลิเวอร์พูล มาตั้งแต่เดือนกันยายนแล้วหลังได้รับอาการบาดเจ็บในช่วงที่พักเบรคให้กับทีมชาติ

 

     สเตอร์ริดจ์ ถูกมองว่าจะกลายเป็นตัวความหวังคนใหม่ในถิ่น แอนฟิลด์ หลังจากขุนพล ''เร้ด แมชชีน'' ต้องเสียศูนย์หน้าคนสำคัญอย่าง หลุยส์ ซัวเรซ ไปให้กับยักษ์ใหญ่แห่งศึก ลาลีกา ลีก ของสเปนอย่าง บาร์เซโลน่า และพอเริ่มฤดูกาลมาทุกอย่างก็เหมือนกำลังจะดีแต่ทว่า ''จอมเซิ้ง'' ดันมาได้รับอาการบาดเจ็บซะก่อน ซึ่งการขาดหายไปของ สเตอร์ริดจ์ ทำให้ ''เดอะ ค็อป'' ทุกคนต้องเผชิญหน้ากับความผิดหวังและล้มเหลวอย่างต่อเนื่องจริงๆ

 

     ขณะนี้ ลิเวอร์พูล รั้งอันดับที่ 11 ของตาราง มี 14 คะแนน จากการลงเล่นไปทั้งหมด 11 เกม ซึ่งมีแต้มตามหลังจ่าฝูง เชลซี อยู่ถึง 15 คะแนนด้วยกัน แถมผลงานในฟุตบอลถ้วยใหญ่ของยุโรปอย่าง ยูฟ่า แชมป์เปี้ยนส์ ลีก ก็มีผลงานที่ส่อแววจะร่วงตกรอบตั้งแต่รอบแบ่งกลุ่มแล้ว หลังแพ้ไปถึง 3 นัด จาก 4 เกมที่ลงเล่น ทำให้การกลับมาลงเล่นในถ้วยใบนี้อีกครั้งในรอบ 5 ปี ดูเหมือนจะเป็นอะไรที่ไม่ค่อยน่าประทับใจสักเท่าไหร่

 

     สิ่งที่ ''เดอะ ค็อป'' ทุกคนควรทำตอนนี้คือให้เวลากับ เบรนแดน ร็อดเจอร์ส อีกซักนิด หลังจากที่พวกเราเหมือนไม่เคยจะให้เวลากับใครเลยอย่างเช่นที่เคยทำกับ รอย ฮ็อดจ์สัน และ เคนนี่ ดัลกลิช ทั้ง 2 คนนี้ถูกวางไว้ให้มาช่วยเหลือทีมในตอนนั้นแต่ทว่าพวกเขาก็ไม่มีเวลามากพอที่จะปรับเปลี่ยนทีม จนการมาของ ''บีร็อด'' ซึ่งเขาสามารถทำให้เราดูดีได้เพียงในไม่กี่ฤดูกาลเท่านั้น ความดีความชอบของเขาตอนนั้นควรถูกยกเปลี่ยนมาเป็นโอกาสให้เขาได้เวลาในการทำทีมต่อไปในตอนนี้ โดยวันนี้ผมจะมาพูดถึง 3 สิ่งที่ ลิเวอร์พูล ควรทำในตอนที่กำลังตกต่ำอยู่ในขณะนี้

 

1. แก้ไขเกมรับ
     เกมรับเป็นอีกจุดหนึ่งที่สำคัญมากที่กุนซือ ''ตาหวาน'' ต้องรีบแก้ปัญหาโดยด่วน การเซ็นสัญญาคว้าตัว เดยัน ลอฟเรน , มานกินโญ่ หรือ อัลแบร์โต้ โมเรโน่ เข้ามาสู่ทีมดูเหมือนจะไม่ได้บรรเทาปัญหาที่พวกเราประสบอยู่เลย เบรนแดน ร็อดเจอร์ส คงหนักใจจริงๆว่าจะเลือกใครมายืนจับคู่กับ มาร์ติน สเคอร์เทล ระหว่าง ลอฟเรน และ โคโล ตูเร่ เพราะทั้งคู่ก็ต่างมีผลงานที่ไม่ค่อยน่าประทับใจสักเท่าไหร่ เบรนแดน ร็อดเจอร์ส ควรจะตัดสินใจให้ได้โดยด่วนว่าจะเลือกใช้ใครแถมโค้ชเกมรับของเรามันก็ควรที่จะมีการเปลี่ยนแปลงได้แล้ว

 

2. เปลี่ยนแปลงรูปแบบการเล่นและแท็กติค
     ฤดูกาลที่ผ่านมา ร็อดเจอร์ส ผสมผสานแท็กติคมากมายและสลับใช้อยู่เรื่อยไม่ว่าจะเป็น 3-5-2 , 4-3-3 และ 4-1-2-1-2 ทว่าพอมาฤดูกาลนี้มันหลงเหลือแค่ 4-3-3 ที่ เบรนแดน ร็อดเจอร์ส ดูเหมือนจะยึดติดกับมันจนเกินไป แถมศูนย์หน้าตัวความหวังคนใหม่อย่าง มาริโอ บาโลเตลลี่ ก็ไม่ใช่กองหน้าในสไตล์ที่จะมาเล่นเข้ากับแผนนี้ของ ''บีร็อด'' ได้ เพราะ ''เกรียนโอ้'' เองไม่ได้มีความปลาดเปลี่ยวในการหาช่องอย่าง ซัวเรซ หรือ สเตอร์ริดจ์ เราจึงไม่ได้ประโยชน์สูงสุดจากศูนย์หน้าชาวอิตาลีรายนี้ สิ่งที่ ร็อดเจอร์ส ควรทำคือลองให้โอกาสแก่ ริคกี้ แลมเบิร์ต หรือ ฟาบิโอ บอรินี่ ได้ลงเล่นแบบสม่ำเสมอบ้างไม่ใช่แค่เอาลงมาแปปๆแล้วก็กลับมาใช้ บาโลเตลลี่ เหมือนเดิม

 

3. นักเตะทุกคนต้องพัฒนาขึ้น
     ฤดูกาลนี้พวกเรามีผู้เล่นมากมายให้ได้ใช้สอย ทว่าตัวหลักหลายรายของเราอย่าง สตีเว่น เจอร์ราร์ด , จอร์แดน เฮนเดอร์สัน และ ราฮีม สเตอร์ลิง ต่างโชว์ฟอร์มได้ไม่ค่อยน่าประทับใจเลยในฤดูกาลนี้ ขณะเดียวกันเราสูญเสียเงินก้อนโตไปกับ เดยัน ลอฟเรน และ มาริโอ บาโลเตลลี่ แต่ทั้ง 2 คนนี้ก็ยังไม่สามารถเล่นได้ดีเหมือนที่เรายอมทุ่มเงินดึงตัวพวกเขาเข้ามาสู่ทีมได้เลย ส่วนนักเตะอย่าง เอ็มเร่ ชาน , โจ อัลเลน และ ฟาบิโอ บอรินี่ กลับกลายเป็นนักเตะที่เล่นกันได้อย่างยอดเยี่ยมซึ่งนี่แสดงให้เห็นถึงความพัฒนาอย่างชัดเจน นักเตะเหล่านี้ลงไปสู้กับ เรอัล มาดริด ได้อย่างสูสี แตกต่างจากชุดใหญ่ของเราที่โดนอัดแบบเละเทะคาถิ่น แอนฟิลด์ นักเตะทุกคนควรพัฒนาไปพร้อมๆกันไม่ใช่แค่คนใดคนนึง

 

     เหนือสิ่งอื่นใด ลิเวอร์พูล ต้องได้รับชัยชนะเหนือ คริสตัล พาเลซ ในสุดสัปดาห์นี้ และลืมเรื่องอาการบาดเจ็บของ ดาเนียล สเตอร์ริดจ์ ไปก่อน เพื่อที่จะได้ไม่ไปกังวลในการเก็บ 3 คะแนนเต็มในพรีเมียร์ลีก ซึ่งมันก็ควรโยงยาวไปถึง 3 คะแนนกับ ลูโดโกเร็ตส์ ในศึก ยูฟ่า แชมป์เปี้ยนส์ ลีก ด้วย เพราะถ้าหากพวกเราทำได้บางทีนี่อาจจะเป็นจุดเริ่มต้นของสิ่งดีๆในฤดูกาลนี้เลยทีเดียว You'll Never Walk Alone

 

 

ADS