5 ไอเดียเคลียร์วิกฤติ หลัง "หริด" เจ็บซ้ำ

     และแล้วสิ่งที่ไม่อยากให้เกิดขึ้น ก็ดันเกิดซะได้ แดเนียล สเตอร์ริดจ์ ได้รับบาดเจ็บอีกครั้ง นับเป็นหนที่ 3 แล้ว ตั้งแต่การบาดเจ็บครั้งแรกจากแคมป์ทีมชาติอังกฤษเมื่อเดือน กันยายน แฟนบอลต่างก็หวังให้หัวหอกจอมเซิ้งรายนี้กลับมาวาดลวดลายบนสนามอีกครั้งในเกมที่จะบุกไปเยือน คริสตัล พาเลซ สุดสัปดาห์นี้ แต่เจ้าตัวก็เกิดเจ็บต่อขึ้นมาซะอย่างงั้น จึงต้องหวังพึ่งกองหน้าคนอื่นต่อไป

     "หงส์แดง" ในซีซั่นนี้ ที่ขาด สเตอร์ริดจ์ มีเพียง 8 แต้ม จาก 8 นัด เท่านั้น จึงเป็นหน้าที่ของ เบรนแดน ร็อดเจอร์ส ที่ต้องหาแผนสำรองมากู้วิกฤตตอนนี้ กุนซือตาหวานชาวไอริชจะทำอะไรได้บ้างกับสถานการณ์ตกที่นั่งลำบากเช่นนี้ และนี่คือไอเดียเล็กๆน้อยๆที่อยากจะนำเสนอให้ "บีร็อด" ได้ลองเก็บไปขบคิดและพิจารณา

บาโลเตลลี่ กับคู่หูในแดนหน้า

     "เกรียนโอ้" ยังคงเป็นหายนะกับ ลิเวอร์พูล ต่อไป ศูนย์หน้าชาวอิตาเลียนเข้ามาสู่ทีมด้วยคาแร็กเตอร์เยี่ยงดาราฮอลลีวู้ดระดับ a-list แต่กลับทำผลงานได้ในระดับ z-list ที่ แอนฟิลด์ สองประตูที่เขาทำได้ ไม่ใช่ในพรีเมียร์ ลีก เกมที่เขาโชว์ฟอร์มในลีกได้เข้าตาที่สุดคือนัดที่เอาชนะ ท็อตแน่ม ฮอตสเปอร์สไป 3-0 ซึ่งในแมตช์นั้นเอง เขาลงประจำการณ์ในแดนหน้าคู่กับ แดเนียล สเตอร์ริดจ์

     เจ้าตัวเองก็เคยยอมรับว่า เขาจะเล่นได้ดีกว่านี้ถ้าได้เล่นโดยคู่หัวหอกในแดนหน้า ด้วยสไตล์การเล่นที่ไม่เหมือนใคร ทำให้เขาสามารถเล่นในแนวลึก หรือออกกว้างด้วยตัวเลือกที่มีไม่มากนัก ฟาบิโอ บอรินี่ น่าจะเป็นตัวเลือกที่เหมาะในการจะเป็นคู่หูที่จะประสานงานกับเขาได้ดีที่สุด ขณะที่ ริคกี้ แลมเบิร์ต ก็จะเป็นอีกทางเลือกที่ต่างออกไปในการเล่นเคียงข้างกับ บาโลเตลลี่

ใช้แผน หน้าเป้าลวงหรือ False 9

     จากเกมนัดที่เปิดบ้านแพ้ เรอัล มาดริด ใน แชมเปี้ยนส์ ลีก เบรนแดน ร็อดเจอร์ส ใช้แผนระบบ หน้าเป้าลวง หรือ False 9 โดยใช้ ราฮีม สเตอร์ลิ่ง ยืนเป็นกองหน้าตัวหลอก ทำหน้าที่วิ่งทั่วแดนหน้า คอยดึงกองหลัง ดึงตัวประกบ ทำเกมส์เอง แม้กระทั่งยิงเอง

     ด้วยสภาพทีมตอนนี้ที่อุดมไปด้วย เพลย์เมกเกอร์ และปีกที่แพรวพราวมากมาย ร็อดเจอร์ส มีตัวเลือกให้ใช้สอยหลายคน และด้วยความยืดหยุ่นในทีม จะทำให้ต่อกรกับฝั่งตรงข้ามได้อย่างชาญฉลาด อย่างไรก็ตาม การขาดจุดโฟกัส เป็นสิ่งที่อันตราย แต่ตอนนี้ก็ไม่มีอะไรจะเสียแล้วนี่นา ใช่มั้ยครับ?

ให้โอกาส ริคกี้ แลมเบิร์ต

     ค่อนข้างน่าเศร้าที่อดีตนักเตะคนสำคัญของ เซาแธมป์ตัน อย่าง ริคกี้ แลมเบิร์ต ต้องนั่งก้นด้านในถิ่น แอนฟิลด์ แต่เชื่อว่าการได้รับโอกาสที่มากขึ้น น่าจะช่วยทำให้ แลมเบิร์ต คืนฟอร์มเก่งเหมือนที่เคยทำได้กับ "นักบุญ" แห่งแดนใต้ การเคลื่อนไหวเป็นประเด็นสำคัญกับนักเตะวัย 32 ปี รายนี้ หากเขาได้รับการสนับสนุนจากรอบด้าน ความฉลาดและความสามารถของเขา จะสามารถพักบอลและจ่ายบอลได้อย่างมีประสิทธิภาพ อีกทั้งยังจะทำประตูได้อีกด้วย

เร่งจังหวะการเล่น

     ซีซั่นที่แล้ว ลิเวอร์พูล เป็นทีมที่บุกทะลวงเข้าทำอย่างรวดเร็ว มักจะปิดเกมได้ตั้งแต่ 30 นาทีแรก ตัวอย่างคือเกมที่ถล่ม อาร์เซนอล ซะยับยู่ยี่ ด้วยเกมรุกอันเฟี้ยวฟ้าวและดุดัน แต่ทว่าผลงานในซีซั่นนี้กลับสวนทาง เล่นได้อย่างน่าเบื่อ ทำเกมกันช้าๆ และมักจะใช้การโยนบอลเข้ากรอบเขตโทษ ไม่ทำชิ่งกันเหมือนเคย

     แน่นอนว่าการจะเล่นบอลเร็ว ต้องเลือกใช้ผู้เล่นที่มีความสามารถสูงพอสมควร และเหล่าผู้เล่นในถิ่น เมอร์ซีย์ไซด์ ต่างก็มีคุณสมบัติเหล่านั้น ที่มีความชำนาญในการเล่นฟุตบอลจังหวะเดียว

วางแผนสำหรับตลาดซื้อขายเดือน มกราคม

     สเตอร์ริดจ์ เป็นกองหน้าชั้นยอด แต่สถิติการบาดเจ็บของเขา บอกได้เลยว่า "หายนะ"

     การเฝ้ารอผู้เล่นที่ใช้เวลาในการรักษาตัวมากกว่าลงเล่นในสนามเป็นอะไรที่ไม่ถูกต้องนัก ดังนั้นมันถึงเวลาแล้วที่ ลิเวอร์พูล จะต้องหานักเตะฝีเท้าฉกาจมาเสริมในเดือน มกราคมนี้ มีกองหน้าในตลาดให้เลือกสรรมากมาย แต่ขอเลยว่าให้พิถีพิถันนิดนึง ไม่เอาแล้วนะแบบ บาโลเตลลี่...