หน้าแรก / ข่าวลิเวอร์พูล / ความคิดเห็นหลังเกมโดยทีมงานสยามลิเวอร์พูล

ความคิดเห็นหลังเกมโดยทีมงานสยามลิเวอร์พูล

ความคิดเห็นหลังเกมโดยทีมงานสยามลิเวอร์พูล

ความคิดเห็นหลังเกมโดยทีมงานสยามลิเวอร์พูล

     เป็นเกมที่พวกเราต้องโคจรมาพบกับทีมที่ฟอร์มกำลังร้อนแรงแบบสุดๆอย่าง นิวคาสเซิ่ล หลังพวกเขาชนะติดต่อกันมาถึง 3 เกมติดต่อกันโดยหนึ่งในนั้นเป็นการเอาชนะทีมอย่าง ''เรือใบสีฟ้า'' แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ในศึกแคปปิตอลวันคัพ มาซะด้วย ทำให้ก่อนเกมดูแล้วพวกเราก็ดูเหมือนจะมีฟอร์มเป็นรองพวกเขาอยู่พอสมควร

     เกมเริ่มมาทุกอย่างก็ชัดเจนว่าเราเป็นรองเจ้าถิ่น ''สาลิกาดง'' นิวคาสเซิ่ล จริงๆหลังพวกเขามีโอกาสยิงผ่าน 30 นาทีแรกไปแล้วถึง 5 ครั้ง แต่พวกเรายังไม่สามารถสร้างสรรค์โอกาสการทำประตูได้เลยถึงแม้พวกเราเองจะสามารถครองบอลได้มากกว่าทางด้าน นิวคาสเซิ่ล ก็ตาม นักเตะอย่าง มาริโอ บาโลเตลลี่ ยังคงเล่นแบบเงียบๆไม่มีความหวือหวาในแนวรุกเช่นเคย

     มันไม่ใช่แค่เพียง บาโลเตลลี่ เพียงคนเดียวแล้วสำหรับตอนนี้ที่ฟอร์มไม่ดี ผมมองเห็นถึงทีม ลิเวอร์พูล ทั้งทีมที่ดูเหมือนไม่มีความกระหายในชัยชนะกันเลย ราฮีม สเตอร์ลิง หมดมุขในการลากเลื้อยเจาะแนวรับคู่ต่อสู้ไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เช่นเดียวกับ ฟิลิปเป้ คูตินโญ่ ที่ก็ไม่สามารถที่จะสร้างสรรค์เกมรุกในรูปแบบเดิมที่เขาถนัดได้อีก ยิ่งไปกว่านั้น กัปตันทีมของเราอย่าง สตีเว่น เจอร์ราร์ด ดูเหมือนจะเป็นคนที่หมดมุขในการช่วยทีมให้กับมาฟอร์มดีอีกครั้งมากที่สุดเพราะเขาเอาแต่วางบอลยาวทิ้งไปแดนหน้าซึ่งก็หมดความแม่นยำไปแล้วอย่างเห็นได้ชัด

     ลูกทีมของ เบรนแดน ร็อดเจอร์ส ในตอนนี้ต้องบอกเลยว่าอาการน่าเป็นห่วงจริงๆ เพราะมันไม่ใช่แค่ปัญหาในเกมรุกแล้ว เกมแดนกลางคู่ต่อสู้เขาก็ปล่อยให้ครองบอลไปพอเราเข้าถึงแดนอันตรายก็มักจะส่งพลาดกันเองและโดนสวนกลับอยู่บ่อยครั้ง ในเกมนี้กับ นิวคาสเซิ่ล ที่จริงเราควรจะโดนถึง 3 ลูกด้วยซ้ำแต่ยังดีที่ได้ ซิมง มินโญเลต์ ช่วยเซฟไว้ได้ในหลายๆจังหวะ ถึงตอนนี้คิดไม่ออกจริงๆว่ากุนซือ ''ตาหวาน'' จะเริ่มปรับทีมที่ตรงไหนก่อนให้ ลิเวอร์พูล กลับมาสู่ฟอร์มที่ยอดเยี่ยมอีกครั้งหรือบางทีพวกเราอาจจะต้องรอความเปลี่ยนแปลงเมื่อช่วงตลาดซื้อ-ขายเปิดตัวขึ้นในเดือน มกราคม เลยทีเดียว

     เกมกับ นิวคาสเซิ่ล เป็นบทพิสูจน์อย่างแท้จริงว่าเรากำลังแย่ในทุกๆจุด เกมรุกทำไม่ได้ เกมรับพร้อมเสียประตู แดนกลางหมดมุขที่จะสร้างสรรค์เกม ถึงตอนนี้แล้วก็คงหลงเหลือแต่ ''เดอะ ค็อป'' พันธ์แท้เท่านั้นที่ต้องก้มหน้าก้มตาเชียร์กันต่อไป เพราะมันก็ดูไม่ออกจริงๆว่าเราจะสามารถกลับเข้ามาสู่ฟอร์มเดิมได้ตอนไหนกัน You'll Never Walk Alone

ADS