หน้าแรก / ข่าวลิเวอร์พูล / "โอ้" กับ "เหยิน"...ไม่อยากจะเทียบ แต่อดเปรียบไม่ได้

"โอ้" กับ "เหยิน"...ไม่อยากจะเทียบ แต่อดเปรียบไม่ได้

โอ้ กับ เหยิน...ไม่อยากจะเทียบ แต่อดเปรียบไม่ได้

     แม้จะเป็นประตูที่เขาถวิลหามานานแสนนาน ของ มาริโอ บาโลเตลลี่ ในเกมเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา แต่ผมก็ยังไม่มั่นใจอยู่ดีว่าเขาจะเป็นคำตอบในระยะยาวสำหรับลิเวอร์พูล ที่จะใช้เขาเป็นตัวแทนของ หลุยส์ ซัวเรซ แม้ เบรนแดน ร็อดเจอร์ส จะไม่ได้ออกมายอมรับในจุดนี้ แต่ถึงเวลาแล้วหละ ที่เขาต้องพิจารณามองหาหัวหอกคนใหม่เข้าสู่ทีม ผู้ที่จะเหมาะสม เข้าระบบกับสไตล์การเล่นของเขา

 

 

     ผมยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ เกรียนโอ้ ทำประตูได้ และดูทรงแล้วน่าจะทำได้ดีมากขึ้นเป็นลำดับตลอดทั้งซีซั่นนี้ ตั้งแต่วินาทีแรกที่เขาย้ายมายังถิ่นแอนฟิลด์จนถึงตอนนี้ ผมยังไม่มองว่าเขาเป็น "นักเตะสไตล์ลิเวอร์พูล" เลยสักนิดเดียว และคงไม่มีอะไรมาเปลี่ยนใจผมได้

 

 

     ใครๆต่างก็รู้ว่า บาโลเตลลี่ เป็นนักเตะที่มีพรสวรรค์ แต่เขาไม่ได้อยู่ในจำพวกของนักเตะระดับโลกแบบที่ ลิเวอร์พูล ต้องการ ถ้าพวกเขาอยากที่จะเข้าใกล้ผลงานระดับเดียวกับที่เคยทำได้ในซีซั่นที่แล้ว อาจจะบอกได้ว่าไม่มีนักเตะที่เป็นตัวเลือกให้กับ "หงส์แดง" มากนัก แต่เรื่องที่โคตรจะเซอร์ไพรส์สำหรับผมคือการที่เซ็นสัญญา เกรียนโอ้ เข้ามาทั้งๆที่เห็นชัดอยู่แล้วว่า ไม่เข้ากับระบบของ ร็อดเจอร์ส แน่นอน

 

 

     หากคุณชอบในสไตล์การเล่นที่บุกเข้าใส่คู่แข่งและบีบพื้นที่เร็ว คุณต้องมองหาผู้เล่นที่เหมาะสม เข้ากับระบบได้อย่างดี แน่นอนว่าเป็นเป็นไม่ได้เลยที่จะหา ซัวเรซ อีกคนมาแทน แต่มันสำคัญมากที่จะต้องมีสักคนที่ทำได้ใกล้เคียงกับเขา ซึ่งไม่ใช่ บาโลเตลลี่ แน่นอน สไตล์การเล่นของเขาช่างต่างกับ ซัวเรซ โดยสิ้นเชิง ที่ชอบเลี้ยงจี้ทะลุทะลวงกองหลังฝั่งตรงข้าม เขาไม่ค่อยพาตัวเองเข้าไปอยู่ในพื้นที่กรอบเขตโทษมากนัก ซึ่งเขาควรจะต้องอยู่ให้ถูกที่ถูกเวลามากกว่านี้

 

 

     หลีกเลี่ยงไม่ได้เลยที่จะเปรียบเทียบ เกรียนโอ้ กับ ซัวเรซ สำหรับคนที่ชมเกมการแข่งขันอยู่เป็นประจำ ย่อมต้องเห็นความแตกต่างอย่างแน่นอน ซัวเรซ เป็นหนึ่งในนักเตะที่ดีที่สุดที่เคยสวมเสื้อสีแดงเพลิงลงเล่นให้กับ ลิเวอร์พูล และด้วยความเคารพถึง บาโลเตลลี่ กับ แลมเบิร์ต มันเป็นเรื่องยากมากที่จะไปแทนที่ความทรงจำที่ยังไม่จางหายไปจากใจ "เดอะ ค็อป" ของหัวหอกชาวอุรุกวัยรายนี้

 

 

     บอกได้เต็มปากเลยว่า ผลงานอันสุดยอดในซีซั่นที่แล้วของลิเวอร์พูล ซัวเรซ คือคนที่คอยขับเคลื่อนอยู่เบื้องหลังทุกอย่าง หาได้ยากมากที่จะมีผู้เล่นคนเดียว ที่สามารถยกระดับทีมได้ถึงเพียงนี้ การจากไปของเขา เกิดจุดเปลี่ยนมากมาย กลายเป็นว่าตอนนี้เหมือน "เร้ด แมชชีน" ยังสตาร์ทเครื่องไม่ติด ฟอร์มเทียบกับซีซั่นก่อนไม่ได้เลยแม้แต่นิดเดียว

 

 

     ความผิดพลาดของ ลิเวอร์พูล เหมือนกับการที่ แดเนียล เลวี่ เจ้าของทีมสเปอร์ส ปล่อย แกเร็ธ เบล นักเตะคนสำคัญที่แบกทีมเอาไว้เหมือนกับ ซัวเรซ ออกจากทีมไปซบยักษ์ใหญ่วงการลูกหนังอย่าง เรอัล มาดริด ค่าตัวของ ซัวเรซ 75 ล้านปอนด์ คิดกันเล่นๆว่า เท่ากับผู้เล่นราคา 20 ล้านปอนด์ 4 คน ผมกล้าพูดเลยว่า การมีนักเตะระดับโลกอย่าง ซัวเรซ ในทีม เขาคนเดียวสามารถทำหน้าที่ได้เหมือนกับมีผู้เล่น 4 คน อยู่ในสนาม ทุกครั้งที่เขาลงเล่น

 

 

     ตั้งแต่เริ่มเปิดฤดูกาลมา ผมคาดการณ์เอาไว้ล่วงหน้าว่าลิเวอร์พูลจะจบในตำแหน่ง ท็อป 4 อีกครั้ง เป็นการลำเอียงปล่อยให้หัวใจตัดสินมากกว่าการมองความเป็นจริงที่เห็นอย่างแท้จริง เพราะทุกคนต่างก็รู้ว่าปีนี้โปรแกรมการแข่งขันของเราหนักมาก ทั้งในลีก บอลถ้วยของลีกสองรายการ อีกทั้งยังมี ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก เพิ่มเข้ามาอีก บอกเลยว่าลำบากแน่นอน ในการฝ่าฟันไปจนถึงตำแหน่งท็อป 4 สำหรับฤดูกาลนี้

 

 

     ปัญหาทุกอย่างจะเบาลง ถ้าหาก สเตอร์ริดจ์ สลัดอาการบาดเจ็บจนสามารถกลับมาช่วยทีมสู้ศึกอันหนักหนาสาหัสนี้ได้ในเร็ววัน เพราะสถานการณ์ในแดนหน้าตอนนี้ ถ้าเปรียบเทียบกับปืน คงต้องบอกตามตรงว่าอย่างกับปืนกระสุนด้าน ยิงแทบไม่ออกสักนัด เชื่อว่าหากดาวยิงจอมเซิ้งกลับเข้าสู่ 11 ตัวจริงของทีม มีการยิงกันหมดแม็กกาซีนแน่นอน อย่าไปคาดหวังอะไรกับชายที่ชื่อ มาริโอ บาโลเตลลี่ ให้มากนักเลย

ADS