5 การเซ็นสัญญาที่น่าผิดหวังที่สุดของ "หงส์แดง"

     แล้วก็ผ่านพ้นไปสำหรับช่วงพักเบรคทีมชาติ ลิเวอร์พูลมีโปรแกรมกลับมาลงเตะพรีเมียร์ ลีก อีกครั้ง โดยมีคิวไปเยือน ควีนส์ ปาร์ค เรนเจอร์ส วันอาทิตย์นี้ ผลงานตั้งแต่ออกสตาร์ทซีซั่นของ "หงส์แดง" เรียกได้ว่าน่าผิดหวัง แพ้ไปแล้ว 4 ครั้ง จากทุกรายการ เฉพาะในลีกก็ปาไปแล้วถึง 3 นัด ตามหลังจ่าฝูงอย่าง เชลซี ถึง 9 แต้ม

 

 

     เบรนแดน ร็อดเจอร์ส ผู้จัดการทีมคนเก่ง มุ่งมั่นพัฒนาทีมอย่างต่อเนื่อง จัดการคว้าตัวผู้เล่นหน้าใหม่เข้ามาร่วมทีมถึง 9 คน หนึ่งในนั้นคือ มาริโอ บาโลเตลลี่ ผู้ซึ่งได้รับความสนใจมากที่สุด และแฟนๆต่างก็หวังให้เจ้าโอ้ยิงประตูได้เยอะๆ หลังทำได้เพียงประตูเดียวจากที่ลงเล่นไปแล้วทั้งหมด 7 นัด

 

 

     ใครๆต่างก็รู้ดีถึง "ชื่อเสีย" ของบาโลเตลลี่ หลายๆคนในวงการฟุตบอลต่างก็เตือน บีร็อด ว่า การเซ็นสัญญานักเตะอย่าง เกรียนโอ้ เป็นการเสี่ยงที่ไม่คุ้มค่า จะนำความวุ่นวายมาสู่ทีม แต่อย่างไรก็ตามกุนซือตาหวานอ้างว่า นักเตะชาวมะกะโรนีรายนี้ เป็น "ความเสี่ยงที่คำนวณไว้แล้ว" สามารถควบคุมได้อย่างแน่นอน

 

 

     จากประวัติศาสตร์ที่ผ่านมา ลิเวอร์พูล ประสบความล้มเหลวจากนักเตะที่ดึงตัวมาร่วมทีมหลายคน และ 5 คนนี้ คือนักเตะที่แฟนๆและผมเองต่างก็เห็นพ้องต้องกันว่า "ล้มเหลว" อย่างมาก ไปติดตามกันเลยครับว่าเป็นใครกันบ้าง

 

1. เจอร์เมน เพนแนนต์

 

 

     ไม่ใช่ความลับอะไรเลยที่ว่า ราฟา เบนิเตซ ผิดหวังอย่างจากการพลาดเซ็นสัญญา ดานี่ อัลเวส จาก เซบีญ่า มาร่วมทัพ "เร้ด แมชชีน" ในปี 2006

     ราฟาคิดว่า เขาได้ตัว อัลเวส เข้าสู่ทีมเรียบร้อยแล้ว แต่ทว่าการย้ายทีมกลับถูกขัดขวางโดยปลิงมะกันเจ้าของเก่าอย่าง จอร์จ ยิลเลตต์ และ ทอม ฮิคส์

     จากความผิดหวังนั้นเอง เบนิเตซ หมดทางเลือก ต้องไปคว้าตัว เจอร์เมน เพนแนนต์ จากเบอร์มิ่งแฮม ด้วยค่าตัว 6 ล้านปอนด์ (ประมาณ 318 ล้านบาท) ผลงานของเขาไม่ต้องพูดถึง วาดลวดลายโชว์ฟอร์มน่าประทับใจให้กับทีมคู่แข่งอยู่เสมอ ทำเอา "เดอะ ค็อป" ต่างก็เซ็งไปตามๆกัน

 

2. เอล ฮัดจิ-ดิยุฟ

 

 

     ในปี 2002 มีแววว่าลิเวอร์พูลจะซื้อขาด นิโคลา อเนลกา ร่วมทีมอย่างถาวร หลังเสร็จสิ้นสัญญายืมตัวช่วงจบซีซั่น แต่ด้วยเหตุผลบางอย่าง เชราร์ อุลลิเยร์ ตัดสินใจล้มเลิกความคิดนั้นไป

     และหวยก็ไปออกที่ เอล ฮัดจิ-ดิยุฟ ศูนย์หน้าชาวเซเนกัล มาแทนที่ อเนลกา ในราคา 10 ล้านปอนด์ (ประมาณ 530 ล้านบาท) หลังซุ่มดูฟอร์มนักเตะรายนี้ที่โชว์ฟอร์มดีในศึกฟุตบอลโลก 2002

     แต่ทว่า ดิยุฟ กลับกลายเป็นผู้เล่น เบอร์ 9 ที่แย่ที่สุดในประวัติศาสตร์ของลิเวอร์พูล ทำได้เพียง 3 ประตู จาก 2 ซีซั่นที่ค้าแข้งในถิ่นแอนฟิลด์ เหมาะสมแล้วที่เข้ามาอยู่ในการจัดอันดับนี้

 

3. แอนดี้ แคร์โรลล์

 

 

     บางทีการเซ็นสัญญาที่น่าปวดหัวที่สุดในประวัติศาสตร์วงการฟุตบอล คือการที่ลิเวอร์พูลทุ่มงบกว่า 35 ล้านปอนด์ (ประมาณ 1,855 ล้านบาท) เพื่อเป็นค่าตัวของ แอนดี้ แคร์โรลล์ ในเดือนมกราคม 2011

     ด้วยการย้ายตัวแบบช็อคโลกของ เฟอร์นันโด ตอร์เรส ไปยังเชลซี ด้วยค่าตัว 50 ล้านปอนด์ (ประมาณ 2,650 ล้านบาท) ก่อนตลาดซื้อขายจะปิดลง ลิเวอร์พูลมีเวลาเหลือเพียง 24 ชั่วโมง ในการหาตัวแทนดาวยิงเลือดกระทิงรายนี้

     ลิเวอร์พูลอับจนหนทาง และถูกบีบบังคับให้ต้องเทเงิน 35 ล้านปอนด์ ให้กับนิวคาสเซิล เพื่อเป็นค่าตัวของศูนย์หน้าร่างโย่งอนาคตไกล ผู้ที่ซัดไป 11 ประตู ในช่วงเวลาเพียงครึ่งฤดูกาลเท่านั้น

โชคร้ายที่ แคร์โรลล์ มีปัญหาเรื่องฟอร์มการเล่นและสภาพความฟิตในถิ่นแอนฟิลด์ ใช้เวลากับ "หงส์แดง" เพียงซีซั่นเดียวก่อนถูกปล่อยยืมตัวไปยัง เวสต์ แฮม และตกลงขายไปในราคา 15 ล้านปอนด์ (ประมาณ 795 ล้านบาท)

 

4. อัลแบร์โต้ อควิลานี่

 

 

     เบนิเตซ ฆ่าตัวตายด้วยการขาย ชาบี อลอนโซ่ กองกลางตัวสำคัญออกจากทีมไปในช่วงซัมเมอร์ ปี 2008

     กองกลางชาวสเปน พิสูจน์ตัวเองจนกลายเป็นกำลังหลักของทีมในฤดูกาล 2008/09 แต่เหล่า "เดอะ ค็อป" กลับต้องเซอร์ไพรส์กันทั้งตำบล เมื่อเจ้าตัวเลือกย้ายออกจากถิ่นแอนฟิลด์ไปซบอก เรอัล มาดริด ด้วยค่าตัว 30 ล้านปอนด์ (ประมาณ 1,590 ล้านบาท)

     เบนิเตซ แก้สถานการณ์ด้วยการเซ็นสัญญา อัลแบร์โต้ อควิลานี่ ผู้ซึ่งมีปัญหาอาการบาดเจ็บถึง 6 เดือน ตลอดอาชีพการค้าแข้งของเขาที่ลิเวอร์พูล โดยกองกลางชาวอิตาเลียนรายนี้ถูกปล่อยยืมตัวกลับอิตาลี บ้านเกิด ถึง 2 ซีซั่น ก่อนจะถูกขายทิ้งในเวลาต่อมา

 

5. โจ โคล

 

 

     ท่ามกลางความผิดหวังของแฟนบอลกับการจากไปของ ราฟา เบนิเตซ ด้วยงบประมาณอันน้อยนิด ผู้จัดการทีมคนใหม่อย่าง รอย ฮอดจ์สัน หวังกู้ศรัทธาคืนจากแฟนๆด้วยการคว้าตัว โจ โคล แบบไร้ค่าตัว

     โจ โคล ได้รับเงินข้อเสนอค่าเหนื่อยสูงสุดขีดเกินความจำเป็นถึง 1 แสนปอนด์ ต่อสัปดาห์ (ประมาณ 5.3 ล้านบาท) เพื่อล่อตาล่อใจให้มาค้าแข้งในถิ่นแอนฟิลด์ ที่ที่เขาใช้เวลาถึงสองปีครึ่งในการพยายามกลับสู่ฟอร์มสมัยเคยรุ่งเรือง แต่ก็ทำไม่ได้ ก่อนจะย้ายแบบไร้ค่าตัวไปยัง เวสต์ แฮม และถูกปล่อยยืมตัวแบบเซอร์ไพรส์แฟนบอลไปยัง ลีลล์ ทีมดังลีกฝรั่งเศส

 

     หวังว่า 5 คนที่ผมเลือกมา น่าจะตรงใจกับที่ใครหลายๆคนคิดนะครับ หวังเหลือเกินว่า นักเตะใหม่ป้ายแดงทั้ง 9 คนของเราที่เพิ่งตัดสินใจเข้ามาค้าแข้งในถิ่นแอนฟิลด์ จะโชว์ฟอร์มเก่งกันทุกคน เป็นกำลังสำคัญที่คอยขับเคลื่อนทีมไปสู่ความสำเร็จ จนถึงขั้นคว้าแชมป์ลีกสูงสุดมาคืนความสุขให้ชาว "เดอะ ค็อป" ได้ในที่สุด