หน้าแรก / ข่าวลิเวอร์พูล / เผยผลสอบแข้ง"หงส์"หลังเกมฉะ"มวยโลก" 2-1

เผยผลสอบแข้ง"หงส์"หลังเกมฉะ"มวยโลก" 2-1

เผยผลสอบแข้งหงส์หลังเกมฉะมวยโลก 2-1

เผยผลสอบแข้ง"หงส์"หลังเกมฉะ"มวยโลก" 2-1

          มาช้ายังดีกว่าไม่มา สำหรับคะแนนสอบหลังจบการแข่งขันระหว่าง ลิเวอร์พูล กับ เวสต์บรอมวิช อัลเบี้ยน ซึ่งผลจบลงด้วยชัยชนะของ "หงส์แดง" ด้วยสกอร์ 2-1 ได้จาก อดัม ลัลลานา และ จอร์แดน เฮนเดอร์สัน สองมิดฟิลด์จอมขยันของทีม ในขณะที่ทีมเยือนได้ลูกโทษปริศนา จากการทำฟาวล์นอกกรอบ แต่ผู้ตัดสิน ไมค์ โอลิเวอร์ เป่าเป็นจุดโทษแบบงง ๆ และก็เป็น ไซโด้ เบราฮิโน่ รับหน้าที่สังหารไม่พลาด โดยวันนี้เราจะไปติดตามผลคะแนนของผู้เล่นในเกมนี้ว่าเป็นอย่างไรกันบ้าง...

[ตัวจริง]

ซิมง มิโญเล่ต์ - 6.5 (คะแนนเต็ม 10)

          ยังถือว่าทำผลงานได้ตามมาตรฐาน ทั้งจังหวะเซฟลูกยิงของ ไซโด้ เบราฮิโน่ ในช่วงต้นเกม และการออกมาตัดลูกกลางอากาศก็ทำได้ดีตามปกติ แม้ว่างานของเขาในเกมนี้จะไม่เยอะสักเท่าไหร่ แต่ก็มาช็อตเซฟสวย ๆ ให้เห็นบ้างประปรายพอทำเนา

ฆาบี มานกีโญ่ - 6

          มีพัฒนาการในเรื่องพละกำลัง ร่างกาย ตลอดจนความเร็วที่มากขึ้นกว่าตอนที่ลงสนามใหม่ ๆ น่าจะมาจากความมั่นใจที่เพิ่มมากขึ้น แต่เขาก็ยังมีจุดอ่อนในเรื่องของการเปิดบอล และจังหวะยิงที่ไม่นิ่งเอาเสียเลย คงต้องซ้อมให้เยอะกว่านี้

มาร์ติน สเคอร์เทล - 7

          หนึ่งในกองหลังที่เล่นได้ดีอย่างสม่ำเสมอ แม้ว่าจะมีอาการบาดเจ็บรบกวนอยู่บ่อยครั้ง และบางครั้งอาจมีจังหวะเข้าบอลพลาด แต่โดยรวมในเกมนี้ถือว่าทำได้ดี โดยเฉพาะการประกบติด ไซโด้ เบราฮิโน่ ซึ่งสามารถจัดการได้อยู่หมัดเลยทีเดียว

เดยัน ลอฟเรน - 6

          เป็นกองหลังสไตล์บอลบนพื้นเนียนกริ๊บ แต่ลูกกลางอากาศทั้งจังหวะสกัดหรือโหม่งให้เพื่อน ยังทำได้ไม่ดีตามฟอร์ม จริงอยู่ที่จุดเด่นของเขาก็คือการขึ้นไปลุ้นทำประตูจากลูกเซตพีซ แต่ต้องอย่าลืมว่าหน้าที่ของเซ็นเตอร์แบ็คคือการหยุดกองหน้าของศัตรูก่อนได้สับไก แถมยังมีส่วนกับจุดโทษปริศนานอกกรอบเขตโทษอีกด้วย ถือว่าเป็นการพลาดจังหวะเดียวจริง ๆ (ตามหลักแล้วเป็นการฟาวล์นอกกรอบที่สมบูรณ์แบบ ในที่นี้หมายถึงการตัดฟาวล์ก่อนที่คู่แข่งจะพาบอลเข้ากรอบเขตโทษได้นั่นเอง แต่กลับเป็นผู้ตัดสินที่ชี้จุดพลาดไป)

อัลเบร์โต้ โมเรโน่ - 7

          มีบทบาทในเกมนี้เยอะกว่ากองหลังตัวอื่น (ออกกล้อง) เพราะว่าเขาต้องขึ้นเกมร่วมกับ อดัม ลัลลานา อยู่ตลอดเวลา แถมยังมีจังหวะได้กระชากลากเลื้อยอย่างเมามันส์อีกด้วย จึงไม่แปลกใจเลยที่เขาจะทำคะแนนเตะตาอยู่พอสมควร แน่นอนว่าจุดเด่นคือการเปลี่ยนจากรับเป็นรุกที่ทำได้ดี แต่จุดอ่อนในเกมรับก็ยังมีให้เห็นอยู่เหมือนเดิม

สตีเว่น เจอร์ราร์ด - 7

          วันนี้ "กัปตันเจิด" ต้องรับหน้าที่แทบจะทุกอย่างเลยก็ว่าได้ หากไม่นับการเป็นผู้รักษาประตู ซึ่งเขามีสถิติการออกบอลแม่นยำสูงถึง 95% ซึ่งเป็นเปอร์เซนต์ที่สูงมาก ๆ เรียกได้ว่าแทบจะไม่พลาดเลย ทั้งการวางลูกไกลหรือใกล้ ออกบอลสั้น-ยาว ก็ทำได้อย่างเหนือชั้น (ชนิดที่ตาแอดมินยังมองไม่ทันว่าเขาจ่ายไปให้ใครเลย) ในช่วงต้นเกมทำหน้าที่ในการคุมจังหวะและเล่นเกมรับ แต่หลังจากที่ถูกปรับไปเล่นในตำแหน่งที่สูงขึ้นในช่วงท้ายเกม ก็ทำได้อย่างยอดเยี่ยมเหมือนเคยและมีโอกาสได้ลองส่องไกลอีกด้วย (น้ำตาจะไหลเห็น เจอร์ราร์ด กลับมาเป็นคนเดิมอีกครั้ง) ถ้าไม่ติดว่า "เฮนโด้" เป็น "MOTM" ก็คงต้องยกให้เขาเลย

ฟิลิปเป้ คูตินโญ่ - 6

          ทำผลงานได้อย่างหวือหวาในช่วงครึ่งแรก ทั้งการออกบอล ไปกับบอล และเชื่อมเกมแดนกลางจากหลังไปหน้า ทำได้อย่างเนียนตาสุด ๆ เหมือนว่า "คูตี้" คนเดิมจะกลับมาแล้ว แต่ก็ยังติดลูกประหม่าอยู่หลายครั้งในจังหวะสุดท้าย อย่างไรก็ตาม พอกลับมาลงครึ่งหลังเขากลับเงียบหายไปในสายลม และสุดท้ายก็ต้องถูเปลี่ยนตัวออกในที่สุด น่าเสียดายจริง ๆ

ราฮีม สเตอร์ลิง - 6

          ความหวังของทีมวัย 19 ปี ยังมีท่าไม้ตายที่ความเร็วป่วนแนวรับคู่แข่งให้เห็นอยู่ตลอด ซึ่งปัญหาของเขาในเกมนี้คือการจับบอลจังหวะแรกหรือที่เรียกว่า "เฟิร์สทัช" และจะเห็นได้ว่าเขานั้นทำบอลลั่น จับบอลห่างตัวอยู่หลายครั้ง โดยเฉพาะจังหวะที่เกือบจะได้จบสกอร์ แต่บอลมากระดอนโดนบริเวณเข่าของเขาเสียก่อน (คงต้องปรับจังหวะการวิ่งกับลูกบอลใหม่เสียแล้ว)

จอร์แดน เฮนเดอร์สัน - 8*

          คงไม่มีใครปฏิเสธคะแนนอันบริสุทธิ์ครั้งนี้ได้ เพราะเขามีส่วนกับสองประตูที่เกิดขึ้นในเกมนี้ ทั้งจังหวะไขว่หลังให้ อดัม ลัลลานา หลุดเขาไปยิง และการสังหารประตูชัยแบบการยิงแปเลียดหนีมือ เบน ฟอสเตอร์ ถ้าไม่ใช่ลูกฟลุ๊ค ต้องถือว่าเป็นการยิงที่ฉลาดมาก ส่วนบทบาทในการเล่นเป็นมิดฟิลด์ตัวกลางก็ยังทำได้ดีตามมาตรฐาน หมดยุดของ เดิร์ก เคาท์ ก็ยังมี "เฮนโด้" ที่ขยันแบบไม่มีหมดจริง ๆ แถมยังมีจังหวะบ่น เจอร์ราร์ด ในช่วงท้ายเกมแสดงให้เห็นถึงความมีสมาธิในเกมที่มากขึ้นอีกด้วย (นาน ๆ ทีจะเห็นคนโวยลูกพี่สักที)

อดัม ลัลลานา - 8

          หากให้รางวัล "แมนอ๊อฟเดอะแมตช์" ร่วมกันได้ก็คงต้องยกให้เขาเลย และดูเหมือนว่าความฟิตของเจ้าตัวนั้นเริ่มจะกลับมาเต็มถังแล้ว ซึ่งจังหวะการยิงประตูขึ้นนำในช่วงท้ายครึ่งแรกต้องบอกว่า ความสามารถเฉพาะตัวล้วน ๆ แถมยังยิงด้วยซ้ายเสียบหน้าต่างได้อย่างงดงามสุด ๆ (แอดมินสะใจสุด ๆ) ลัลลานา ทำให้เกมรุกของ ลิเวอร์พูล มีชีวิตชีวามากขึ้น ทั้งการต่อบอลและจับบอลจังหวะแรกได้อย่างเนียนตาเหมือนเต้นระบำ เท่านั้นยังไม่พอ เขายังโชว์ลูกขยันในการไล่บอล ตัดบอล และเข้าเพรสซิ่งได้รวดเร็วอีกด้วย (ตอนแรกแอดมินคิดว่า หรือ? ลัลลานา จะของปลอม ^^)

ริคกี้ แลมเบิร์ต - 5

          น่าเสียดายที่เขายังช้าเกินไปสำหรับเกมที่รวดเร็วของ ลิเวอร์พูล แม้ว่าจะพยายามปรับจังหวะให้เร็วขึ้น แต่ก็ยังมีหลายครั้งที่ทำบอลพลาดเพราะช้าไปเอง อย่างไรก็ดี ประโยชน์ของ แลมเบิร์ต ก็คือความสูงใหญ่และจังหวะง้างเท้ายิง สร้างความหวาดผวาให้กับแนวรับของคู่แข่งได้ไม่น้อย ดูเหมือนว่าการเป็นหัวหอกตัวเป้าจะโดดเดี่ยวเกินไปสำหรับเขา

[ตัวสำรอง]

เกล็น จอห์นสัน (ลงสนามแทน มานกีโญ่ 64') - 6

          หลังจากที่คัมแบ็คมาจากการเจ็บหนักในช่วงก่อนหน้านี้ ดูเหมือนว่าจังหวะต่าง ๆ ที่เคยทำได้ดีจะเริ่มกลับมาอีกครั้ง แม้ว่าความฟิตจะยังไม่สมบูรณ์ แต่ก็น่าจะเป็นต้นแบบให้ มานกีโญ่ ได้ซึมซับประสบการณ์และเทคนิกได้เยอะเลยทีเดียว สำหรับเกมนี้ โดยรวมยังถือว่าโอเคตามแบบฉบับ จอห์นสัน ที่ทำอยู่ตลอด

ลูคัส เลว่า (ลงสนามแทน คูตินโญ่ 75') - 6

          การลงสนามของ ลูคัส ทำให้ เจอร์ราร์ด ได้มีอิสระในเกมรุกมากขึ้น ซึ่งส่งผลดีให้กับทีมพอสมควร และดูเหมือนว่าการลงสนามเป็นตัวสำรองแบบนี้ น่าจะเปลี่ยนเกมได้เยอะกว่าลงเป็นตัวจริงเสียอีก โดยวันนี้ถือว่าเขาลงสนามมาด้วยหน้าที่ในการตัดเกมแดนกลางแทน เจอร์ราร์ด ซึ่งก็ทำได้ดีไม่มีผิดพลาดแต่อย่างใด แถมยังดูฟิตกว่าเดิมอีกด้วย

มาริโอ บาโลเตลลี่ (ลงสนามแทน แลมเบิร์ต 65') - 5

          "ฝืดพอกัน" สำหรับ "เจ้าโอ้" หลังลงสนามมาแทน ริคกี้ แลมเบิร์ต และมีโอกาสลองยิงอยู่หลายครั้ง แต่ก็ยังไม่เข้าเป้า ซึ่งดูเหมือนความอาร์ตของเขาจะกลายเป็นปีศาจคอยกันกินความน่ากลัวของเขาให้ลดน้อยลงไปเรื่อย แถมจังหวะหนึ่งต่อหนึ่งกับผู้เล่นของ เวสต์บรอมวิช ก็ยังไม่สามารถผ่านไปได้ง่าย ๆ นั่นทำให้เราเริ่มคิดถึง แดเนี่ยล สเตอร์ริดจ์ แล้ว คงต้องให้เวลาเขาปรับจูนกันอักสักระยะหลังจากที่รีเทิร์นสู่ลีก อังกฤษ รอบสอง

ADS