พรีวิว พรีเมียร์ลีก ลิเวอร์พูล -vs- อาร์เซน่อล

พรีวิว พรีเมียร์ลีก ลิเวอร์พูล -vs- อาร์เซน่อล

สนาม แอนฟิลด์

วันเสาร์ที่ 8 กุมภาพันธ์ 2014 เวลา 19.45 น.

ผู้ตัดสิน ไมเคิ่ล โอลิเวอร์

ถ่ายทอดสดช่อง CTH Stadium 2

พรีวิวการแข่งขัน

ลิเวอร์พูล

          การพลาดเสมออย่างเจ็บแสบในเกมที่เสมอกับ "มวยโลก" เวสต์ บรอมวิช อัลเบี้ยน 1-1 ณ สนาม เดอร ฮอว์ธอร์น จากการถวายพานสุดงามของปราการหลังผิวสี โคโล ตูเร่ ทำให้ วิคเตอร์ อนิเชเบ้ หลุดเขาไปยิงโล่ง ๆ (คมจริง ๆ) เสียบมุมสุดเอื้อมของ ซิมง มิโญเล่ต์ เป็นประตูแรกในชีวิตของเจ้าตัวที่ยิง "หงส์แดง" ได้ นับตั้งแต่เป็นเด็กปั้นของ เอฟเวอร์ตัน คู่แข่งร่วมเมือง (ดูเหมือนว่า ลิเวอร์พูล จะมีปัญหากับพวกเด็กเก่าเหลือเกิน ยิงได้ยิงดี)

          แต่อย่างไรก็ตาม ความผิดพลาดครั้งนั้นก็ไม่เอามาเก็บเป็นประเด็นอะไรมากมาย เพราะว่าเจ้าตัว (ตูเร่) ออกมายอมรับผิดแต่เพียงผู้เดียว พร้อมด้วย "บีร็อด" เบรนแดน ร็อดเจอร์ส กุนซือสมองเพชรของทีม ก็ออกมาปกป้องลูกทีมสุดตัวกับสื่อว่า "อุบัติเหตุเกิดขึ้นได้ทุกเวลา และไม่สามารถคาดเดาได้ ถึงแม้ว่าเราจะผิดหวังกับผลการแข่งขันก็ตาม" ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเกมหน้าที่จะถึงนี้ จะมีอุบัติเหตุเกิดขึ้นซ้ำสองอีกหรือไม่ ต้องรอติดตามชมครับผม

          ลิเวอร์พูล ในวันนี้จะขาดก็เพียงผู้เล่นในแนวรับ (หน้าเดิม ๆ) ล้วน ๆ แม้กระทั่ง ลูคัส เลว่า ที่เป็นมิดฟิลด์ตัวรับเชิงสูง ก็มาเจ็บกับเขาด้วย ไล่รายชื่อกันไปยาว ๆ ครับ ไม่ว่าจะเป็น เกล็น จอห์นสัน, แดเนี่ยล แอ็กเกอร์, มามาดู ซาโก้, เซบาสเตียน โคอาเตส และ โฆเซ่ เอ็นริเก้ เรียกว่าแนวรับแทบจะหมดสต็อกกันเลยทีเดียว คาดว่าในอีก 1-2 สัปดาห์ข้างหน้าน่าจะมีข่าวดีกันบ้างนะครับ

          เกมนี้้ ร็อดเจอร์ส คงต้องหงัดมุกเก่ามาใช้อีกแน่นอนคือการตั้งรับแล้วโต้กลับเร็ว โดยเป้าหมายอยู่ที่คู่หูมหากาฬ "SAS" ซัวเรซ แอนด์ สเตอร์ริดจ์ ช่วยกันซัดประตูให้ทีมเอาชนะเกมนี้ให้ได้ เป้าหมายของ ลิเวอร์พูล ในเกมนี้คือต้องเก็บ 3 แต้มให้จงได้ เพื่อทำแต้มไล่จี้อันดับสามอย่าง เชลซี และลดช่องว่างของ อาร์เซน่อล ให้ลดลงเหลือแค่ 5 แต้ม ซึ่งถ้าพวกเขาสามารถทำได้ จะทำให้โอกาสติดท็อปโฟร์ในฤดูกาลนี้ เริ่มมองเห็นภาพชัดขึ้น แล้วยังมีโอกาสลุ้นแชมป์อยู่ห่าง ๆ อีกด้วย

          ผู้สันทัดกรณีหลาย ๆ ท่าน ไม่ว่าทั้งไทยและเทศ ต่างก็เสียงแตกกันมาก สำหรับผลการแข่งขันที่จะออกมาในเกมนี้ ซึ่งเป็นเกมที่คาดเดาได้ยากและออกได้ถึง 3 หน้า ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับว่าใครจะมีทีเด็ดทีขาดมากกว่ากัน แถมยังมีผู้สันทัดกรณีบางท่านบอกว่าเกมนี้จะเป็นเกมที่เสมอกันไปแบบอึดอัด คือเล่นแบบกั๊ก ๆ และแบ่งแต้มไปในที่สุด แต่ส่วนตัวผมมองว่า ลิเวอร์พูลมีโอกาสชนะ 50% เสมอ 20% และแพ้ 30% ซึ่งน่าจะเป็นเกมที่สนุกสูสี ชิงไหวชิงพริบกันน่าดูครับผม

อาร์เซน่อล

          จ่าฝูงศึกพรีเมียร์ลีกในขณะนี้อย่างทางด้าน "ไอ้ปืนใหญ่" อาร์เซน่อล มีสถิติที่ดีมากก็คือการลงสนามแบบไร้พ่ายมา 10 เกมติดต่อกันแล้วรวมทุกรายการ โดยชนะ 8 ครั้ง และเสมอ 2 ครั้ง แต่ถ้าจะนับย้อนไปในเกมที่พวกเขาแพ้ ก็ต้องเป็นเกมที่สนาม เอติฮัด สเตเดี้ยม (นรกของทีมเยือน) เป็นการพ่ายให้กับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 3-6 ซึ่งหลังจากนั้นมาพวกเขาก็ยังไม่พลาดท่าแพ้ทีมใดเลย

          อาร์แซน เวนเกอร์ เทรนเนอร์เก๋าประสบการณ์ของทัพ "เดอะ กันเนอร์ส" จะขาดผู้เล่นอย่าง อารอน แรมพ์ซี่ย์, อาบู ดิยาบี้, คิล คัลล์สตรอม, ยาย่า ซาโนโก้ และ ธีโอ วัลค็อตต์ ที่เจ็บล้วน ๆ ส่วนทางด้าน มาติเยอ ฟลามินี่ ติดโทษแบนห้ามลงสนาม และรายสุดท้าย แจ็ค วิลเชียร์ ที่ก่อนหน้านี้มีข่าวว่าเจ็บ แต่สุดท้ายก็สามารถลงสนามได้ แต่อาจจะต้องรอเช็คฟิตกันจนถึงวินาทีสุดท้าย

          ผู้เล่นแนวรุกและแดนกลางยังคงยืนกันแน่เหมือนเช่นเคย คาดว่าเกมนี้คงต้องหวังพึ่งพาทีเด็ดของสามกองกลางเชิงสูงอย่าง มิเกล อาร์เตต้า, ซานติ กาซอร์ล่า และ เมซุต โอซิล ลงปั้นเกมให้กับ โอลิวิเย่ร์ ชิรูด์ ที่ช่วงหลังฟอร์มดีในจบสกอร์ในเกมนี้ อย่างไรก็ตามการเล่นเป็นทีมเยือนของ อาร์เซน่อล อาจจะไม่ค่อยราบลื่นสักเท่าไหร่ ก็ต้องมาลุ้นกันว่าอะไรจะเกิดขึ้น

รายชื่อนักเตะบาดเจ็บ / หมดสิทธิ์ลงสนาม

ลิเวอร์พูล

ลูคัส เลว่า (ผ่าเข่า)
มามาดู ซาโก้ (เอ็นร้อยหวาย)
เกล็น จอห์นสัน (ข้อเท้า)
โฆเซ่ เอ็นริเก้ (เข่า)
เซบาสเตียน โคอาเตส (ผ่าเข่า)
แดเนี่ยล แอ็กเกอร์ (กล้ามเนื้อน่อง)

อาร์เซน่อล

อารอน แรมพ์ซี่ย์
อาบู ดิยาบี้
คิล คัลล์สตรอม
ยาย่า ซาโนโก้
ธีโอ วัลค็อตต์
มาติเยอ ฟลามินี่ (แบน)

รายชื่อนักเตะที่คาดว่าจะลงสนาม

ลิเวอร์พูล (4-3-3) : ซิมง มิโญเล่ต์ ; จอห์น เฟลเนแกน, โคโล่ ตูเร่, มาร์ติน สเคอร์เทล, อาลี ซิสโซโก้ ; ฟิลิปเป้ คูตินโญ่, สตีเว่น เจอร์ราร์ด, จอร์แดน เฮนเดอร์สัน ; ราฮีม สเตอร์ลิง, หลุยส์ ซัวเรซ, แดเนี่ยล สเตอร์ริดจ์

อาร์เซน่อล (4-2-3-1) : วอสเซียก เชสนี่ ; บาการี่ ซาญ่า, โลร็อง คอสเซียลนี่, แพร์ เมแตร์ซัคเกอร์, นาโช่ มอนเรอัล ; อเล็กซ์ อ็อกซ์เลด-แชมเบอร์เลน, มิเกล อาร์เตต้า ; ซานติ กาซอร์ล่า, เมซุต โอซิล, ลูคัส โพดอลสกี้ ; โอลิวิเย่ร์ ชิรูด์