กัปตันเริ่มไม่ไหว...5 ความหวังใหม่ที่ควรเข้ามาแทน

     แม้ยิงประตูกลบคำวิพากษ์วิจารณ์ได้ในเกม เมอร์ซีย์ไซด์ ดาร์บี้ แมตช์ แต่ทว่ายังคงมีคำถามและข้อสงสัยในตัวของกัปตันคนเก่งอย่าง สตีเว่น เจอร์ราร์ด ตามมาอีกมากมายเกี่ยวกับเรื่องของอายุที่เพิ่มมากขึ้น รวมไปถึงฟอร์มการเล่นในแต่ละสัปดาห์ของเขา ในฐานะที่เป็นตำนานและวีรบุรุษที่แท้จริงของ "หงส์แดง" เป็นเรื่องน่าเศร้าเล็กน้อยที่ทุกคนต่างก็เห็นว่า ความเร็วและพละกำลังของเขากำลังลดถอยลงไปเรื่อยๆ

 

 

     เจอร์ราร์ด มักถูกวิพากษ์วิจารณ์อยู่เสมอในบางช่วง แต่มักจะเรียกฟอร์มเก่งกลับคืนมาได้ทุกครั้ง แต่ไม่ต้องสงสัยเลยว่า การที่ เบรนแดน ร็อดเจอร์ส โยกให้กัปตันไปเล่นในตำแหน่งกองกลางที่หนักไปทางด้านเกมรับ คอยยืนคุมเกมอยู่ในแดนตัวเอง เพื่อจัดการแก้ไขปัญหาเรื่องสภาพร่างกายของเขา ลดความเสียงไม่ให้เจ้าตัวต้องโรยราไปก่อนช่วงคริสต์มาสต์นี้

 

 

     ไม่มีเหตุผลใดๆที่ต้องกำจัด "สตีวี่ จี" ออกไปจากทีม แต่ถ้าหากว่าวันหนึ่งที่หมดเวลาของเขาแล้ว แน่นอนว่าต้องมีการหาคนมาทดแทนตำแหน่งของหนึ่งในนักเตะผู้จงรักภักดีกับสโมสรมากที่สุดคนนี้ และนี่คือ 5 รายชื่อ ที่ลิเวอร์พูลควรเก็บไว้พิจารณา เพื่อให้มาทำหน้าที่แทนกัปตันเจิดของเรา

 

1. ซามี่ เคดิร่า

 

 

     ด้วยสัญญาที่ใกล้จะหมดลงเต็มทีหลังจบซีซั่นนี้ เคดิร่า เป็นดีลที่ต้องเสี่ยงพอสมควร เนื่องด้วยในวัยถึง 27 ปี อาจมีอายุการใช้งานไม่ยาวนานมากนัก แต่ก็คุ้มค่าที่จะลองเสี่ยง ด้วยศักยภาพที่ล้นเหลือ และยิ่งเป็นหนึ่งในคนที่พา เยอรมัน คว้าแชมป์โลก ปี 2014 ด้วยแล้ว แน่นอนว่ากองกลางชาวเยอรมันรายนี้ต้องกระแทกตา เบรนแดน ร็อดเจอร์ส อย่างแน่นอน

 

 

     ตลอดชีวิตการค้าแข้งของเขาทั้งกับ เรอัล มาดริด และ สตุ๊ตต์การ์ท เขาได้แสดงทักษะการจ่ายบอลอันเยี่ยมยอด และการคุมเกมที่เหนียวแน่น มักจะเคลื่อนที่ไปข้างหน้าและสนับสนุนเพื่อนร่วมทีมอยู่เสมอ ไม่ต้องห่วงเลยเรื่องเกมรับแดนกลาง เจอร์ราร์ดสามารถสร้างสรรค์เกมรุกได้อย่างเต็มที่ ถ้ามีเคดิร่าเฝ้าอยู่ตรงพื้นที่กลางสนาม

 

2. คริสตอฟ คราเมอร์

 

 

     หากต้องพลาดท่าในการคว้าตัว เคดิร่า เหมาะเหลือเกินที่จะชายตาไปมอง คราเมอร์ วัย 23 ปี ที่ลงเล่นแทน เคดิร่า ในนัดชิงบอลโลก 2014 แม้ประสบการณ์ระดับทีมชาติจะไม่มากนัก แต่ผลงานระดับสโมสรบอกได้เลยว่าไม่ธรรมดา มีแววดีที่จะเป็นผู้เล่นระดับท็อปของโลกได้ไม่ยาก

     คราเมอร์เป็นหนึ่งในผู้เล่นคนสำคัญของ "สิงห์หนุ่ม" โบรุสเซีย มึนเช่นกลัดบัค มีรายงายเผยออกมาว่า ค่าตัวของเขาอยู่ที่ประมาณ 20 ล้านปอนด์ (ประมาณ 1,060 ล้านบาท) โดยลิเวอร์พูลอาจจะต้องเปิดศึกกับ อาร์เซนอล และเชลซี เพื่อแย่งลายเซ็นนักเตะดาวรุ่งพุ่งแรงรายนี้

 

3. เควิน สตรูทมัน

 

 

     มันต้องเป็นอะไรที่แจ่มมากๆแน่นอนถ้าได้ สตรูทมัน มาเป็นหนึ่งในขุนพล "เร้ด แมชชีน" เขาคือหนึ่งในกองกลางตัวคุมเกมที่ดีที่สุด แต่ทว่าการจะได้ตัวเขามานั้นไม่ง่ายนัก ต้องฟัดกับคู่อริตลอดกาลอย่าง แมนฯยู และยิ่งในตอนนี้มีข่าวลือหน้าหูว่า กองกลางชาวดัตช์รายนี้ พร้อมจะย้ายหนีโรม่า เมื่อหายจากอาการบาดเจ็บที่หัวเข่าที่เกิดขึ้นตั้งแต่ช่วงก่อนบอลโลก

 

 

     "ผีแดง" ให้ความสนใจในตัว สตรูทมัน มาโดยตลอด แต่ถ้าลิเวอร์พูลสามารถไต่อันดับไปถึงท็อป 4 และผ่านเข้าสู่รอบน็อคเอาต์ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ได้ บอกตามตรงเลยว่า มีสิทธิ์ปาดหน้าเค้กแมนฯยู ฉกสตรูทมันเข้ารังได้อย่างแน่นอน

 

4. เอ็มเร่ ชาน

 

 

     อาจไม่ต้องมองหาตัวแทนกัปตันเจิดที่ไหนไกล ชาน นี่แหละที่มีแวว นักเตะหนุ่มจากทีมชาติเยอรมันชุด ยู-21 ย้ายมาเข้ามาสู่ถิ่น แอนฟิลด์ ด้วยชื่อเสียงที่มากพอตัว แต่ทว่าดันโชคร้ายได้รับบาดเจ็บจากแมตช์ทีมชาติเมื่อเดือนที่แล้ว โดยจะกลับมาช่วยทีมได้ในเดือนหน้า

     พละกำลัง ความแข็งแรง และความนิ่งในการครองบอล คือสิ่งที่เขาทำได้อย่างน่าประทับใจกับ ไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น ซีซั่นที่ผ่านมา ก่อนลิเวอร์พูลจะยื่นข้อเสนอ 9.75 ล้านปอนด์ (ประมาณ 516 ล้านบาท) คว้าตัวมาร่วมทีม ดูจากทรงการเล่นแล้ว ผมเห็นภาพของทายาทเจอร์ราร์ดมาลางๆ ด้วยการเคลื่อนไหวที่คล่องตัวของเขา จะเป็นตัวเดือนในแดนกลางที่ดีในช่วงหน้าหนาวนี้

 

5. มาเร็ค ฮัมซิค

 

 

     หากว่า ชาน สามารถสืบทอดตำแหน่งของเจอร์ราร์ดได้ ถ้าอย่างนั้นควรนำ ฮัมซิค จากนาโปลี มาเสริมทีมอีกคนโดยด่วน ลิเวอร์พูลตกเป็นข่าวว่าวางแผนเตรียมติดต่อกับนักเตะชาวสโลวาเกียรายนี้ในช่วงเดือน มกราคม สะกิดทีมดังเมืองเนเปิ้ลส์ถึงการเจรจาดีลนี้

 

 

     ฮัมซิค มักจะเป็นหนึ่งในผู้เล่นฟอร์มดีที่สุดของ เซเรีย อา บ่อยครั้ง ด้วยสถิติดังกล่าวข้างต้นชี้ให้เห็นว่าเขามีผลกระทบต่อนาโปลีมากมายถึงเพียงไหน

 

 

     เป็นเรื่องที่ทุกคนต่างก็รู้กันดีว่า กัปตันของเราสังขารโรยราลงไปมากขึ้นทุกวันๆ อีกทั้งผู้เล่นในแดนกลางตอนนี้ก็ยังไม่มีใครที่จะสามารถมาแทนเจอร์ราร์ดได้เลยจริงๆ ก็ได้แต่หวังว่านักเตะทุกคนจะรีดฟอร์มเก่งออกมาได้ ช่วยให้ "หงส์แดง" ผ่านพ้นช่วงเวลาอันน่าลำบากนี้ไป นอกจากนี้ถ้าหากได้ตัวใครซักคนใน 5 คนนี้มาเติมความแกร่งในแดนกลาง ความสำเร็จอยู่ไม่ไกลเกินเอื้อมอย่างแน่นอน