หน้าแรก / ข่าวลิเวอร์พูล / สูตร(ไม่)ลับปราบ"หงส์แดง"จริงหรือเปล่า?

สูตร(ไม่)ลับปราบ"หงส์แดง"จริงหรือเปล่า?

สูตร(ไม่)ลับปราบหงส์แดงจริงหรือเปล่า?

สูตร(ไม่)ลับปราบ"หงส์แดง"จริงหรือเปล่า?

          หลังจากจบเกมเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา ซึ่งทำให้สาวก "เดอะ ค็อป" ต้องผิดหวังซ้ำซากกับปัญหาที่แก้ไม่ตกของ ลิเวอร์พูล โดยก่อนที่เราจะไปถึงสูตรลับที่ว่า ต้องขอหยิบยกสถิติในเกมที่พ่ายให้กับ แอสตัน วิลล่า 0-1 มาตีแผ่กันเสียก่อน

          เมื่อดูจากสถิติการครองบอลที่มากล้นถึง 75% ซึ่งแทบจะเหนือกว่า 3 เท่าของ วิลล่า ด้วยซ้ำ แต่ก็ยังไม่สามารถทำอะไรได้เป็นชิ้นเป็นอัน ยิ่งไปกว่านั้น โอกาสจบสกอร์ 11 ครั้ง แต่กลับยิงตรงกรอบแค่ 1 ครั้งเท่านั้น อะไรจะบอดขนาดนั้น แถมยังต่อบอลกันได้อย่างขั้นเทพเกือบจะถึง 750 ครั้งอีกด้วย หากจะพูดกันง่าย ๆ ก็คือสถิติโดยรวมทุกอย่างดีกว่าทีมเยือนหมดเลย เพียงแต่ผลลัพธ์ที่ออกมา กลับไม่เป็นไปตามเป้านั่นเอง

คราวนี้เราจะมานำเสนอวิธีกำราบ "หงส์แดง" ให้อยู่หมัดมีขั้นตอนอย่างไรบ้าง

1. บอมบ์ลูกโด่ง!

          หลักการง่าย ๆ ในการเจาะประตู ลิเวอร์พูล ขอเพียงแค่ทีมของท่านมีโอกาสเปิดลูกโด่งเข้าไปในกรอบเขตโทษให้ได้ ไม่ว่าจะเป็นเตะมุม, ลูกตั้งเตะ, เปิดจากริมเส้น หรือแม้กระทั้งสาดยาวจากหลังไปหน้า ทั้งหมดที่ว่ามานี้สร้างปัญหาให้เกมรับของ ลิเวอร์พูล ที่มีปัญหาเรื่องลูกกลางอากาศได้แน่นอน และไม่แน่ว่าโอกาสเพียงไม่กี่ครั้งก็สามารถเปลี่ยนเป็นประตูได้


 

2. ตั้งรับ 10 คน!

          ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อว่า ลิเวอร์พูล เจอกับปัญหาคู่แข่งตั้งรับ 10 คนเมื่อไหร่ ต้องเป็นอันเจาะไม่เข้าทุกทีไป ซึ่งเป็นสิ่งที่ตามหลอกหลอนอยู่หลายฤดูกาลหลัง ๆ แถมซีซั่นนี้ไม่มีตัวเลี้อยตะลุยอย่าง หลุยส์ ซัวเรซ และนัดล่าสุดก็ไม่มี แดเนี่ยล สเตอร์ริดจ์ จึงทำให้การต่อบอลธรรมดา ๆ ไม่สามารถทำอะไรคู่แข่งได้เลย หากทีมของท่านต้องการแบ่งแต้ม "หงส์แดง" เอาสูตรนี้ไปใช้รับรองว่ามีโอกาสสูงที่จะทำสำเร็จ


 

3. มายด์เกม!

          สงครามจิตวิทยาในสนามเป็นอาวุธเด็ดที่จะทำให้นักเตะ ลิเวอร์พูล ที่ค่อนข้างจะมีปัญหากับเรื่องถ่วงเวลา, เข้าบอลหนัก หรือ เล่นสกปรก (ตอดนิดตอดหน่อย) รับรองว่าเคล็ดลับนี้ป่วนสมาธิของแข้ง "หงส์แดง" ได้ชัวร์ เพราะว่าพวกเขามักจะตกเป็นเหยื่ออยู่ร่ำไป โดยเฉพาะทีมไหนก็ตามที่ใช้แทคติกถ่วงเวลา อันนี้ได้ผลมากเลยทีเดียว


 

4. อย่าเปิดเกมแลก!

          เหมือนโดนสตั้นไปหลายนาที หากว่าทีมที่เล่นด้วยไม่เปิดเกมแลก เพราะว่าสไตล์การเล่นอันเป็นเอกลักษณ์ของ ลิเวอร์พูล ก็คือการเล่นเกมโต้กลับเร็ว โดยใช้นักเตะที่มีความคล่องตัวสูงเข้าไปลุ้นทำประตู ซึ่งหากเปิดเกมแลกจะทำให้รูปเกมเข้าทางพวกเขาในที่สุด เพราะฉะนั้นแนะนำว่าให้เน้นต่อบอลไปเรื่อย ๆ โดยเน้นไปที่การเจาะริมเส้นทั้งสองฝั่ง และจบด้วยการบอมบ์เข้าไปตามข้อแรกรับรองว่ามีขวัญผวาแน่นอน


 

5. ไม่จำเป็นต้องเล่นสวย!

          ใช่แล้ว! หากต้องการจะจัดการกับคู่แข่งอย่าง ลิเวอร์พูล ไม่ต้องใช้อะไรมากมาย อย่างที่ทราบกันว่าประตูที่เสียไป 5 ลูกในฤดูกาลนี้ มากกว่าครึ่งมาจากจังหวะชลมุนหน้ากรอบเขตโทษ และผสมโรงกับการต่อบอลไม่เกินสามครั้งใช้นักเตะไม่เกิน 4 คนก็สามารถหลุดเข้าไปทำประตู "หงส์แดง" ได้แล้ว ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าพวกเขาซ้อมเกมรับกันมาแบบไหน


 

6. ยิงไกลไร้พิษสง!

          สงสัยว่าคงจะหมดยุคนักเตะส่องไกลดี ๆ ไปแล้ว สำหรับ ลิเวอร์พูล นับตั้งแต่ที่หมดช่วงของ สวีเว่น เจอร์ราร์ด เพราะว่านักเตะที่มีอยู่ในแดนกลางประเภทซัดแถวสองดี ๆ ยังหวังพึ่งไม่ได้ ไม่ว่าจะเป็น จอร์แดน เฮนเดอร์สัน, โจ อัลเลน, ลูคัส เลว่า หรือแม้กระทั่ง เจอร์ราร์ด ในช่วงนี้เองก็ตาม จึงไม่แปลกใจเลยที่พวกเขาจะยิงนกตกปลาไปซะหมด หรือสรุปง่าย ๆ ก็คือ แค่ไปยืนเกะกะขวางทางยิงเล็กน้อยก็ไม่ต้องกลัวอะไรทั้งนั้น


 

7. เพรสซิ่งให้หนัก!

          ลิเวอร์พูล เป็นทีมที่ไม่ชอบคู่แข่งที่มีการเข้าประกบและไล่บอลเร็ว ซึ่งหากทีมของคุณรู้ตัวว่าต่อบอลสู้ไม่ได้ และมีขุมกำลังที่เป็นรอง แนะนำว่าให้เล่นเกมเพรสซิ่งให้หนักเข้าไว้ เพราะนั่นจะทำให้แข้ง "หงส์แดง" ไม่อาจแสดงความสามารถออกมาได้เต็มที่โดยเฉพาะการออกบอลเร็ว และที่สำคัญต้องอย่าเผลอเข้าบอลพรวดเด็ดขาด เท่านี้ก็ทำให้นักเตะค่าตัวแพงทั้งหลายออกอาการเกร็งและเล่นกันไม่ออกแล้ว


          หลังจากที่ดูมาหลาย ๆ เกมในช่วงออกสตาร์ทฤดูกาล 2014/15 ต้องบอกว่า ลิเวอร์พูล ยังมีจุดอ่อนอยู่มากที่แสดงออกมาให้เห็น และที่เราต้องออกมาพูดแบบนี้ ก็เพราะว่าต้องการจะสื่อถึงปัญหาที่ยังแก้ไม่ตกของ เบรนแดน ร็อดเจอร์ส อย่างไรก็ตาม นี่ยังเป็นแค่ช่วงเริ่มต้นของการแข่งขันเท่านั้น ซึ่งหนทางยังอีกยาวไกลสำหรับการพิสูจน์ตัวเองของเหล่าแข้งสายเลือดใหม่

          นอกจากนี้ พวกเรายังมีโปรแกรมสำคัญที่รออยู่ในช่วงกลางสัปดาห์ และเป็นเกมที่จะได้ลงเล่นใน แอนฟิลด์ อีกครั้ง ต้อนรับการมาเยือนของ ลูโดโกเร็ตส์ ทีมจาก บัลแกเรีย ในศึก ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ในวันพุธที่ 17 กันยายน เวลา 01.45 น. อย่าลืมติดตามชมและเชียร์กันได้ที่นี่ @Siamliverpool เหมือนเช่นเคยครับผม ^^

ADS