ครึ่งแรกโดน3-0 ! คล็อปป์ รับเกือบปิดทีวีไม่ได้ดูปาฏิหาริย์ที่อิสตันบูลแล้ว

          เจอร์เก้น คล็อปป์ ผู้จัดการทีม ลิเวอร์พูล ออกมาให้สัมภาษณ์ย้อนความหลังยอมรับว่าเขาเกือบจะปิดทีวีนอนตั้งแต่ครึ่งแรกแล้วในเกมนัดชิงแชมเปี้ยนส์ ลีก ปี 2005 ที่ทัพ "หงส์แดง" ในตอนนั้นโดน เอซี มิลาน นำห่างไปถึง 3-0 เพราะคิดว่าเกมจบลงแล้ว แต่เขาก็ตัดสินใจดูจนจบและได้เห็นปาฏิหาริย์ที่อิสตันบูลคาตาตัวเอง

          ก่อนเกมแชมเปี้ยนส์ ลีก รอบแบ่งกลุ่ม (กลุ่ม บี) นัดแรกที่ 2 ทีมยักษ์ใหญ่ของรายการนี้อย่าง ลิเวอร์พูล จะโคจรมาพบกับ เอซี มิลาน โดยก่อนหน้านี้ทั้งคู่เคยพบกันในรายการนี้มา 2 นัด ซึ่งทั้ง 2 นัดคือเกมนัดชิงชนะเลิศ (2005, 2007) อีกด้วย

          และคล็อปปได้ออกมาพรีวิวก่อนเกมย้อนรำลึกถึงเกมนัดชิงปี 2005 ที่ลิเวอร์พูลพลิกสถานการณ์จากตาม เอซี มิลาน 0-3 ในครึ่งแรก มาตีเสมอ 3-3 ได้ในครึ่งหลัง ก่อนจะดวลจุดโทษชนะไปอย่างสะใจแฟนบอลแบบสุดๆ ซึ่งคล็อปป์ ยอมรับว่าเขาดูเกมนัดชิงในปีนั้นแต่เกือบจะปิดทีวีลงไปแล้วตั้งแต่ครึ่งแรก เพราะคิดว่าเกมจบลงไปแล้ว

          "ในตอนนั้น ผมไม่ใช่ทั้งแฟนบอลของเอซี มิลาน หรือลิเวอร์พูล กำลังดูแชมเปี้ยนส์ ลีก นัดชิงชนะเลิศ และหลังจากสกอร์ 3-0 ทุกคนต่างก็บอกมาก่อนหน้านี้เกี่ยวกับ เอซี มิลาน ว่าคือทีมเต็ง ซึ่งดูเหมือนว่าเกมจะได้ตัดสินไปแล้ว"

          "ผมกำลังคิดว่าจะไม่ดูครึ่งหลังแล้ว เพราะทุกๆคนในโลกนี้คิดว่ามันจบสิ้นไปแล้ว ยกเว้นคนไม่กี่คนในห้องแต่งตัวของ ลิเวอร์พูล ที่คิดว่าเกมนี้อาจจะยังไม่จบ"

          "แล้วมันก็กลายมาเป็นหนึ่งในเกมฟุตบอลที่ยิ่งใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยมีมา และผมก็มีความสุขจริงๆ ที่ไม่ได้ปิดทีวีและได้ดูจนจบเกม"

          สำหรับ ลิเวอร์พูล มีคิวเปิดแอนฟิลด์รับการมาเยือนของ เอซี มิลาน ในคืนวันพุธที่ 15 กันยายน นี้ เริ่มเกมเวลา 02.00 น.