อ็อกซ์เลด เตือนฟีร์มิโน่ระวังโดนเขาแย่งตำแหน่ง

           อเล็กซ์ อ็อกซ์เลด-แชมเบอร์เลน มิดฟิลด์ตัวพริ้วของ ลิเวอร์พูล ออกมาให้สัมภาษณ์เตือนแบบติดตลกถึง โรแบร์โต้ ฟีร์มิโน่ ว่ากองหน้าชาวบราซิลกำลังจะต้องเผชิญกับการแข่งขันแย่งตำแหน่งจากเขา หลังจากที่ "ดิ อ็อกซ์" ซ้อมตำแหน่งฟอลส์ ไนน์และทำผลงานได้ดีมากๆในช่วงแคมป์ปรีซีซั่น

           แชมเบอร์เลน เปลี่ยนจากกองกลางไปเล่นเป็นมิดฟิลด์ตัวรุก และยังสามารถเล่นในตำแหน่งฟอลส์ ไนน์ ของ ฟีร์มีโน่ ได้เมื่อฤดูกาลที่แล้ว และเขาเชื่อมั่นว่าตัวเขาสามารถทำได้เพราะมันเป็นธรรมชาติของเขาอยู่แล้ว โดยเราจะเห็นได้จากเกมในฤดูกาลที่ผ่านมาที่ ลิเวอร์พูลบุกไปชนะเบิร์นลีย์ถึงถิ่นเทิร์ฟ มัวร์ 3-0 อ็อกซ์เลด-แชมเบอร์เลน ลงสนามมาในช่วง 10 นาทีสุดท้ายในตำแหน่งของ บ็อบบี้ และเจ้าตัวก็ยิงประตูปิดกล่องได้สำเร็จ

           แม้ว่า โรแบร์โต้ ฟีร์มิโน่ จะคือเบอร์หนึ่งในตำแหน่งฟอลส์ ไนน์ แต่ อ็อกซ์เลด ก็ให้สัมภาษณ์เชิงตลกว่าดาวยิงแซมบ้าอาจจะต้องต่อสู้กับเขาเพื่อช่วงชิงการลงสนามในฤดูกาลหน้า

           เมื่อพูดถึงประตูที่เทิร์ฟ มัวร์ แข้งวัย 27 ปี ยิ้มและบอกกับเว็บไซต์ของสโมสรว่า "ผมจะพูดว่า ผมคิดว่านั่นเป็นประตูในแบบฉบับของ บ็อบบี้ ฟีร์มิโน่ มากกว่า! บ็อบบี้ ควรจะระวังไว้!"

           "ชัดเจนว่ามันดีที่จบฤดูกาลและสามารถยิงประตูได้ เมื่อผ่านไปซักพัก มันดีที่มีสิ่งนั้นเป็นส่วนเสริมความมั่นใจและคอยเตือนความจำให้กับผม"

           "ใช่ แน่นอนว่า บ็อบบี้ คือผู้เล่นที่ดีที่สุดสำหรับการเล่นในตำแหน่งฟอลส์ ไนน์ ผมคิดว่าเขาเก่งกาจที่สุดในตำแหน่งนี้สำหรับพวกเรา"

           "และในสถานการณ์เกมรุก เขาทำให้ โม ซาลาห์, ซาดิโอ มาเน่ หรือ ดิโอโก้ โชต้า เล่นกันง่ายขึ้นมาก เขาจะพยายามเปิดพื้นที่แนวรับคู่แข่ง แล้วดึงดูดกองหลังคู่แข่งออกมา และก็แนวรับของคู่แข่งด้วย"

           "แต่วิธีการเล่นแนวนั้น มันเกือบจะคล้ายกับตำแหน่งหมายเลข 10 ในตำแหน่งกองกลางตัวรุก เพราะคุณดรอปได้ค่อนข้างลึก ดังนั้นในแง่นั้นผมคิดว่าว่ามันค่อนข้างเป็นธรรมชาติสำหรับผมนะ ผมรู้สึกเหมือนผมสามารถวิ่งไปข้างหลังจากตรงนั้นได้เช่นกัน และเขาไปในกรอบเขตโทษ และได้รับโอกาสให้ยิงและทำประตู"

           "ดังนั้น ผมไม่รังเกียจที่จะทำหน้าที่นั้น – แต่คุณก็รู้ ผมยังตั้งตารอดูสถานการณ์ในตำแหน่งกองกลาง แต่ถ้าจำเป็นต้องใช้ผมในตำแหน่งนั้น ผมก็มั่นใจว่า ผมสามารถทำได้เช่นกัน"