หน้าแรก / ข่าวลิเวอร์พูล / พรีวิว พรีเมียร์ลีก แมนเชสเตอร์ ซิตี้ -vs- ลิเวอร์พูล

พรีวิว พรีเมียร์ลีก แมนเชสเตอร์ ซิตี้ -vs- ลิเวอร์พูล

พรีวิว พรีเมียร์ลีก แมนเชสเตอร์ ซิตี้ -vs- ลิเวอร์พูล

พรีวิว พรีเมียร์ลีก แมนเชสเตอร์ ซิตี้ -vs- ลิเวอร์พูล

สนาม เอติฮัด สเตเดี้ยม

วันจันทร์ที่ 25 สิงหาคม 2014 เวลา 02.00 น.

ผู้ตัดสิน ไมเคิ่ล โอลิเวอร์

ถ่ายทอดสดช่อง CTH Stadium 5

พรีวิวการแข่งขัน


ลิเวอร์พูล

          พลพรรค "หงส์แดง" เปิดตัวฤดูกาล 2014/15 อย่างสวยงาม ด้วยการคว้าสามแต้มแต้มในถิ่น แอนฟิลด์ เหนือคู่แข่งคู่ค้าอย่างสโมสร เซาท์แฮมป์ตัน 2-1 จากสองประตูของ ราฮีม สเตอร์ลิง และ แดเนี่ยล สเตอร์ริดจ์ คู่หู "SAS V.2" แม้ว่าการเสีย หลุยส์ ซัวเรซ ไปนั้นทำให้ความน่ากลัวลดลงไปพอสมควร แต่ผู้เล่นในเกมรุกที่เหลืออยู่ก็สามารถสร้างความปั่นป่วนให้กับเกมรับคู่แข่งได้ไม่น้อยเลยทีเดียว

          การต้องบุกไปเยือน แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ในแมตช์ที่สองของฤดูกาล น่าจะเป็นเรื่องที่ดีสำหรับ ลิเวอร์พูล เพราะไม่ว่าผลการแข่งขันจะออกมาเป็นอย่างไร พวกเขาก็ยังเหลือหนทางอีกยาวไกลในการลุ้นแชมป์ซีซั่นใหม่นี้

          ในช่วงปรี-ซีซั่นก่อนหน้านี้ พวกเขาเคยลงเล่นเกมอุ่นเครื่องในรายการ กินเนสส์ อินเตอร์เนชั่นแนล แชมเปี้ยนส์ คัพ ซึ่งผลจบลงด้วยการเสมอ 2-2 และต้องตัดสินด้วยการยิงจุดโทษ แล้วก็เป็นทางด้าน ลิเวอร์พูล ที่นิ่งกว่าเอาชนะไปได้ 3-1 แต่นั่นเป็นแค่เพียงเกมอย่างไม่เป็นทางการ แถมตัวผู้เล่นหลัก ๆ ที่ออกไปรับใช้ทีมชาติก็กำลังอยู่ในช่วงพักผ่อนและเรียกความฟิตอีกด้วย

          โดยในเกมนี้ เบรนแดน ร็อดเจอร์ส กุนซือสมองเพชรของทีม น่าจะจัดชุดผู้เล่นเดียวกับเกมนัดแรกที่พบกับ "นักบุญแดนใต้" แต่อาจจะเปลี่ยนผู้เล่นสองตำแหน่งก็คือการส่ง โจ อัลเลน ลงสนามมาแทน ลูคัส เลว่า และดร็อป เกล็น จอห์นสัน แบ็คแฟนขับ(ไล่)เยอะออกมาเป็นตัวสำรอง โดยมีนักเตะใหม่อย่าง "หนุ่มหน้ามน" อัลเบร์โต้ โมเรโน่ ฟูลแบ็คจากสโมสร เซบีย่า ลงประเดิมสนามเป็นเกมแรก

          ล่าสุดแม้ว่าดีลของ "ซูเปอร์มาริโอ" มาริโอ บาโลเตลลี่ จะยังไม่เรียบร้อย โดยเจ้าตัวจะเข้ามาตรวจร่างกายและจรดปากกาในเวลาสาย ๆ ที่ประเทศอังกฤษ หรือประมาณช่วงหัวค่ำของประเทศไทย ซึ่งน่าจะทำให้เขาไม่พร้อมที่จะลงสนามในเกมนี้ ทั้งเรื่องเอกสารและการปรับตัวเข้ากับทีม แต่เชื่อว่าเกมในสุดสัปดาห์หน้าที่จะต้องพบกับ ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ จะมีชื่อของเขาอยู่ใน 11 ผู้เล่นตัวจริงอย่างแน่นอน

          อย่างไรก็ตาม สถิติที่พบกันมาของทั้งคู่ในซีซั่นที่แล้ว (2013/14) จบลงด้วยชัยชนะในบ้านใครบ้านมัน โดยในเกมแรกที่ เอติฮัด สเตเดี้ยม บ้านของ "เรือใบสีฟ้า" ในคืน "บ็อกซิ่งเดย์" และก็เป็นทางด้านเจ้าถิ่นที่เอาชนะไปได้ 2-1 จากประตูชัยของ อัลวาโร่ เนเกรโด้ ในช่วงทดเวลาบาดเจ็บครึ่งแรก ส่วนในเกมต่อมาที่สนาม แอนฟิลด์ บ้านของ ลิเวอร์พูล ก็เป็นทางฝั่งเจ้าบ้านที่คว้าชัยไปได้ 3-2 จากประตูชัยของ ฟิลิปเป้ คูตินโญ่ ในนาทีที่ 78

          นอกจากนี้ การลงทำหน้าที่ตัดสินเกมของ ไมเคิ่ล โอลิเวอร์ ในพรีเมียร์ลีก 11 ครั้งกับ "หงส์แดง" ตั้งแต่ปี 2011 ผลปรากฏว่า ลิเวอร์พูล สามารถชนะได้ถึง 5 ครั้ง เสมอ 5 ครั้ง และแพ้เพียงแค่ 1 ครั้ง ซึ่งเป็นการแพ้ต่อ แบล็คพูล 1-2 เมื่อวันที่ 12 มกราคม 2011 และก็เป็นครั้งแรกที่ โอลิเวอร์ ลงทำการตัดสินให้กับคู่ของ ลิเวอร์พูล อีกด้วย โดยแมตช์ล่าสุดที่เขารับหน้าที่เป็นกรรมการตัดสินชี้ขาดให้กับคู่ของ "หงส์แดง" ก็คือเกมที่ ลิเวอร์พูล เปิดบ้านเอาชนะ อาร์เซน่อล 5-1 เมื่อวันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2014 ที่ผ่านมานี้เอง

แมนเชสเตอร์ ซิตี้

          มานูเอล เปเยกรินี่ กุนซือมากประสบการณ์ของ "เรือใบสีฟ้า" พาทีมบุกเชือด นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด 2-0 ในนัดแรกของฤดูกาล 2014/15 ชนิดที่รูปแบบเกมไม่ได้สวยเหมือนกับสกอร์ โดยสองลูกที่ได้มานั้นเป็นการใช้จังหวะโต้กลับขึ้นไปทำประตูทั้งสิ้น ด้วยศักยภาพในแนวรุกของ "ซิตี้" ซึ่งเป็นนักเตะที่มีความเร็วและความคล่องตัวสูงมาก ยากที่จะจัดการได้อย่างอยู่หมัด ทำให้ "สาลิกาดง" ต้องตกเป็นเหยื่ออันแสนโหดร้าย

          โดยในเกมนี้ พวกเขาจะไม่สามารถใช้บริการของ อัลวาโร่ เนเกรโด้ หัวหอกตัวเก๋าที่เจ็บเท้า และ อีลากวิม มองกาล่า เซ็นเตอร์แบ็คตัวใหม่ที่ย้ายมาจากสโมสร ปอร์โต้ ยังไม่ผ่านความฟิตพอที่จะลงฟัดกับ ลิเวอร์พูล ส่วนผู้เล่นที่เหลือไม่ว่าจะเป็น ซามีร์ นาสรี, แฟร์นานดินโญ่, ยาย่า ตูเร่ และ ดาบิด ซิลบา สี่มิดฟิลด์ระดับพระกาฬยังอยู่ครบ นอกจากนี้ในรายของ สเตฟาน โยเวติช ดาวยิงชาวมอนเตเนโกร ที่สลัดเดี้ยงสำเร็จ หลังจากที่เจ็บซ้ำซากในซีซั่นก่อน ก็พร้อมลงสนามด้วยเช่นกัน

          เมื่อดูจากผลงานเมื่อฤดูกาลที่ผ่านมา ต้องบอกว่าพวกเขาเป็นทีมที่เล่นเกมรุกสวยงาม โดยอาศัยความสามารถเฉพาะตัวของผู้เล่นเป็นส่วนใหญ่ และเกมรับที่ค่อนข้างไว้ใจได้ แต่จุดอ่อนเดียวของพวกเขาเมื่อปีที่แล้ว ก็คือตำแหน่งผู้รักษาประตูที่มีการสลับใช้ โจ ฮาร์ท กับ คอสเทล พันติลิม่อน อยู่บ่อยครั้ง ซึ่งแสดงถึงตำแหน่งนายทวารที่ยังไม่นิ่งพอ แต่สำหรับซีซั่นนี้พวกเขาได้เสริม วิลเฟรโด้ กาบาเญโล่ จอมหนึบจากทีม มาลาก้า เพื่อเป็นกำลังสำรองในอนาคต

รายชื่อนักเตะบาดเจ็บ / หมดสิทธิ์ลงสนาม / เช็คฟิต / ติดโทษแบน

ลิเวอร์พูล

อดัม ลัลลาน่า (เจ็บ-เข่า)
จอน เฟลเนแกน (เจ็บ-เข่า)
แดเนี่ยล แอ็กเกอร์ (เจ็บ-เข่า)
ฟาบิโอ บอรินี่ (เจ็บ-ไหล่)

แมนเชสเตอร์ ซิตี้

อัลวาโร่ เนเกรโด้ (เจ็บ-เท้า)
อีลากวิม มองกาล่า (ไม่ฟิต)

รายชื่อนักเตะที่คาดว่าจะลงสนาม


ลิเวอร์พูล (4-3-3) : ซิมง มิโญเล่ต์ - อัลเบร์โต้ โมเรโน่, เดยัน ลอฟเรน, มาร์ติน สเคอร์เทล, ฆาเบียร์ มานกีโญ่ - สตีเว่น เจอร์ราร์ด, โจ อัลเลน, จอร์แดน เฮนเดอร์สัน - ราฮีม สเตอร์ลิ่ง, ฟิลิปเป้ คูตินโญ่, แดเนี่ยล สเตอร์ริดจ์

แมนฯ ซิตี้ (4-4-2) : โจ ฮาร์ท - ปาโบล ซาบาเลต้า, แวงซ็อง ก็องปานี, มาร์ติน เดมิเคลิส, อเล็กซานเดอร์ โคลารอฟ - ซามีร์ นาสรี, แฟร์นานดินโญ่, ยาย่า ตูเร่, ดาบิด ซิลบา - สเตฟาน โยเวติช, เอดิน เชโก้

ADS