นักเตะขึ้นไปบนอัฒจันทร์เพื่อปกป้องครอบครัว เป็นปฏิกิริยาที่หลีกเลี่ยงไม่ได้
วันที่13 กรกฎาคม: สมาคมฟุตบอลอุรุกวัย ได้ออกแถลงการณ์กรณีที่ดาร์วิน นูนเญซและนักเตะรายอื่นๆ ปะทะกับแฟนบอลโคลอมเบีย บนอัฒจันทร์ หลังจบเกม โคลอมเบีย พบ อุรุกวัย ในศึกโคปา อเมริกา รอบรองชนะเลิศ
เนื้อหาในแถลงการณ์:
สืบเนื่องจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในศึกโคปา อเมริกา รอบรองชนะเลิศ สมาคมฟุตบอลอุรุกวัยขอชี้แจงดังนี้
ทีมชาติอุรุกวัยแสดงให้เห็นถึงความเป็นมืออาชีพ ทั้งรายบุคคลและในฐานะทีม นับตั้งแต่เดินทางมาถึงสหรัฐอเมริกา เป็นเวลากว่าหนึ่งเดือน เราให้ความเคารพต่อผู้จัดการแข่งขัน คู่แข่ง สื่อมวลชน เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย และประชาชนทั่วไป ปฏิบัติตามกฎระเบียบและค่านิยมของเราอย่างเคร่งครัด
ในวันพุธที่ผ่านมา แฟนบอลอุรุกวัยในหลายๆ โซนของสนาม ต้องเผชิญกับการใช้ถ้อยคำที่รุนแรง ยั่วยุ และพฤติกรรมก้าวร้าว
กลุ่มแฟนบอลอุรุกวัยที่อยู่ด้านหลังม้านั่งสำรอง เกิดการกระทบกระทั่งกันหลายครั้ง สถานการณ์เริ่มทวีความรุนแรง จนส่งผลกระทบต่อครอบครัวและทีมงานของนักเตะหลายคนในทีมชาติของเรา ในสถานการณ์ที่ตึงเครียดเช่นนั้น เมื่อผู้หญิงและเด็กๆ ถูกจับเป็นตัวประกัน บรรดานักเตะจึงตัดสินใจปีนขึ้นไปบนอัฒจันทร์เพื่อพยายามไกล่เกลี่ยและปกป้องครอบครัวของพวกเขา
เป็นเรื่องที่น่าสังเกตว่า เหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นในขณะที่แฟนบอลอุรุกวัยมีจำนวนน้อยมาก ส่วนใหญ่เป็นคนในครอบครัว และสนามก็ไม่มีมาตรการรักษาความปลอดภัยที่เพียงพอต่อสถานการณ์เช่นนี้
เมื่อพิจารณาถึงข้อเท็จจริงและสถานการณ์ที่ขาดความปลอดภัยดังกล่าว ปฏิกิริยาของผู้เล่นจึงเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ และเป็นปฏิกิริยาตามธรรมชาติ
หลังจบการแข่งขัน เจ้าหน้าที่ได้เข้ามาช่วยเหลือจนสามารถแยกผู้ก่อเหตุออกจากกันได้ ก่อนหน้านั้นทีมแพทย์ของสมาคมฟุตบอลอุรุกวัย ได้ให้การรักษาพยาบาลผู้ได้รับบาดเจ็บเบื้องต้น และได้ออกรายงานทางการแพทย์ในวันรุ่งขึ้น
ส่วนกรณีที่เกิดขึ้นในห้องรับรองแขกของเจ้าหน้าที่และแฟนบอลอุรุกวัยบางส่วน เราขอชี้แจ้งว่า บริเวณดังกล่าว ตกเป็นเป้าของการกระทำที่ไม่เป็นมิตรจากแฟนบอลกลุ่มข้างเคียงตลอดทั้งเกม เช่นเดียวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นหลังจบเกม ซึ่งพุ่งเป้าไปที่แฟนบอลอุรุกวัยอีกกลุ่มที่อยู่ไม่ไกลกัน เราขอประณามการกระทำที่น่ารังเกียจเช่นนี้ และจะทำการวิเคราะห์อย่างละเอียด ขณะเดียวกัน เรายินดีน้อมรับบทลงโทษใดๆ ที่อาจเกิดขึ้นจากการสืบสวน
ตลอดระยะเวลา 124 ปี สมาคมฯ ภาคภูมิใจที่ได้แสดงให้เห็นถึงความเคารพต่อกฎเกณฑ์ และต่อต้านความรุนแรงทุกรูปแบบในวงการกีฬา
น่าเสียดายที่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ส่งผลกระทบต่อบรรยากาศที่ดีของครอบครัว และยังเกิดขึ้นในสภาพแวดล้อมที่ขาดความปลอดภัย นำไปสู่ปฏิกิริยาตอบโต้ที่แม้จะไม่เหมาะสม แต่ก็เป็นสิ่งที่เข้าใจได้ในแง่มุมของความเป็นมนุษย์