ฟาบินโญ่ รับลำบากใจต้องมาตกอยู่ท่ามกลางข้อพิพาทระหว่างทีมชาติ

           ฟาบินโญ่ กองกลางชาวบราซิลของ ลิเวอร์พูล ออกมาให้สัมภาษณ์ยอมรับว่าเขาลำบากใจที่ต้องมาตกอยู่ภายใต้ปัญหาข้อพิพาทระหว่างทีมชาติ กับสโมสรต่างๆ ที่ไม่ยอมปล่อยให้ผู้เล่นออกไปเล่นทีมชาติในช่วงการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19

           สโมสรฟุตบอลอังกฤษ ไม่อยากปล่อยผู้เล่นอเมริกาใต้ของพวกเขาไปเล่นในศึกฟุตบอลโลก รอบคัดเลือกโซนอเมริกาใต้ เนื่องจากทวีปอเมริกาใต้อยู่ในโซนแดงของรัฐบาลอังกฤษในมาตรการป้องกันไวรัสโควิด-19 ซึ่งเมื่อนักเตะเสร็จสิ้นภาระกิจแล้วพวกเขาเดินทางกลับมาอังกฤษจะต้องเข้ากักตัวเป็นเวลาอย่างน้อย 10 วัน ซึ่งจะทำให้สโมสรต้นสังกัดเหล่านั้นหมดสิทธิ์ใช้งานนักเตะไปหลายเกมเลยทีเดียว

           ปัญหามันอยู่ตรงที่ว่าทีมชาติบราซิลได้ขอให้ทาง ฟีฟ่า ใช้กฎแบนผู้เล่นที่ไม่มาร่วมทีมชาติเป็นเวลา 5 วัน ซึ่งทำให้ฟาบินโญ่, อลิสซง และโรแบร์โต้ ฟีร์มิโน่ ไม่สามารถลงสนามช่วยทีมได้ในเกมพรีเมียร์ลีกสุดสัปดาห์นี้ และหาก "หงส์แดง" ฝ่าฝืนกฎก็จะทำให้ถูกปรับแพ้ 0-3 ได้ ซึ่งกลายเป็นเรื่องราวบานปลายไม่รู้ว่าสุดท้ายจะจบลงที่ตรงไหน

           ล่าสุด ฟาบินโญ่ ได้ออกมาให้สัมภาษณ์ถึงประเด็นนี้โดยยอมรับว่าเขาลำบากใจมากๆที่ต้องตกอยู่ภายใต้สถานการณ์ที่วุ่นวายแบบนี้

           "มันเป็นสถานการณ์ที่ยากลำบาก เพราะเราต้องการปกป้องประเทศของเรา เราต้องการเล่นให้กับทีมบราซิล" ฟาบินโญ่ กล่าวกับ ESPN Brasil

           "แต่ผมไม่คิดว่ามันเป็นแค่ระหว่างสโมสรและทีมชาติ มันเป็นกฎของรัฐบาล ซึ่งผมก็ไม่คิดว่าสมาคมฟุตบอลอังกฤษจะเปลี่ยนแปลงสิ่งนั้นได้ ผมคิดแบบนั้น"

           "ผมเชื่อว่า ฟีฟ่า คงจะไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ รวมทั้งทั้ง CONMEBOL (สมาพันธ์ฟุตบอลอเมริกาใต้) หรือ CBF (สมาคมฟุตบอลบราซิล) ก็ตาม"

           "ผู้เล่นอย่างเราตกอยู่ท่ามกลางข้อพิพาทแบบนี้ โดยไม่สามารถทำอะไรได้มากนัก เพราะมันเป็นการตัดสินใจของพรีเมียร์ลีกที่จะไม่ปล่อยเรา"

           "และในอีกแง่หนึ่งเราเข้าใจดี เพราะระหว่างการเดินทางกลับเราต้องกักตัวอยู่ในโรงแรม 10 วัน ซึ่งก็เพียงพอแล้วที่จะทำให้คุณเสียจังหวะของเกม ซึ่งมันจะยากทันที"

           "แต่เราก็เข้าใจในฝั่งของทีมชาติด้วยว่าทีมชาติไม่สามารถขาดผู้เล่นได้ถึง 9 คน ซึ่งมันเป็นผู้เล่นจำนวนมากเกินเกินไป"

           "ดังนั้น ตอนนี้เราจึงอยู่ท่ามกลางข้อพิพาทนี้โดยหวังว่าสุดท้ายจะมีทางออกจริงๆ"